พนักงานขายต้องออกพบลูกค้าทั้งกลางวันและกลางคืน มีทั้งการไปเยือนลูกค้าประจำที่ไปพบเป็นประจำจนคุ้นเคยแล้ว และทั้งการไปเยือนลูกค้าใหม่ซึ่งมักจะเกิดความรู้สึกกังวลตามมา การต้องถือแผนที่ ปาดเหงื่อ เดินตามตรอกซอกซอยเล็ก ๆ วิ่งวุ่นทั้งวันเยี่ยมลูกค้าหลายสิบราย ถ้านับตลอดทั้งปีอาจเยี่ยมลูกค้าไปถึงหลายร้อยราย หรืออาจจะถึงหลักพันรายเลยก็เป็นได้ การทำความเข้าใจและจดจำข้อมูลลูกค้าทั้งหมดนั้นเป็นภาระที่ยากจะรับไหวสำหรับคนทั่วไป แต่ทราบหรือไม่ว่า ตอนนี้มีเครื่องมือดิจิทัลที่จะมาเป็นมือขวาของพนักงานขายแล้ว เครื่องมือที่ว่านี้คือ “UPWARD” บริการดิจิทัลสำหรับงานขายที่เข้าเยี่ยมเยือนลูกค้า พัฒนาโดย “UPWARD Inc.” บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นที่กรุงโตเกียวในปี 2016 แล้วเครื่องมือนี้มีฟังก์ชันอะไรบ้าง
■ เครื่องมือสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพงานขายให้ดีที่สุด
“แม้ว่าการพัฒนาในยุคดิจิทัลจะก้าวหน้าไปมากเพียงใด แต่สุดท้ายก็ยังมีงานบางอย่างที่คนเท่านั้นที่ทำได้ หนึ่งในนั้นก็คือ “งานขาย”” คุณริวซูเกะ คาเนกิ CEO ผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท UPWARD Inc. (Mr.Ryusuke Kaneki Representative Director, President and CEO) กล่าว
จากที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบข้อมูลภูมิศาสตร์ (GIS: Geographic Information System) ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานในปี 2016 บริษัทได้เริ่มจำหน่ายบริการ Digital Transformation ที่ชื่อว่า UPWARD ซึ่งเป็นการผสานรวมระหว่าง GIS และระบบการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM: Customer Relationship Management) บนระบบคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งธุรกิจนี้เติบโตอย่างรวดเร็วจนมีลูกค้าถึงประมาณ 400 รายโดยมีบริษัทใหญ่ ๆ เป็นหลัก
เดิมทีบริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน GIS และงานส่วนใหญ่เป็นงานพัฒนาโซลูชันตามความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ความเร็วและคุณภาพของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจาก 3G เป็น 4G ไปสู่ 5G ก้าวกระโดดขึ้นมาก นอกจากนี้ คุณคาเนกิมองว่า ท่ามกลางการเชื่อมโยงเทคโนโลยีดิจิทัลทั้งหมดเข้าสู่ระบบคลาวด์บนอินเทอร์เน็ต “อนาคตของธุรกิจจะผันไปสู่รูปแบบ SaaS (Software as a Service) ซึ่งขับเคลื่อนทำงานบนพื้นที่เสมือนจริง” และตัดสินใจที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจทุกด้านครั้งใหญ่
บริษัทได้นำความรู้และประสบการณ์ที่สะสมไว้เกี่ยวกับแผนที่และข้อมูลตำแหน่ง มาประยุกต์ใช้เพื่อเชื่อมโยงกับงานขายที่มนุษย์ทำอยู่เดิม ซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่มีความคิดริเริ่มที่ก้าวล้ำครั้งแรกของญี่ปุ่น นี่คือความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง คุณคาเนกิกล่าวว่า “เราต้องการให้พนักงานขายสามารถมุ่งเน้นไปที่งานขายอย่างเต็มที่ เราจึงได้คิดสร้างเครื่องมือที่จะสนับสนุนและปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงานควบคู่กันไป”
■ใช้เสียงในการป้อนข้อมูลการเจรจาธุรกิจได้ ณ ที่นั้น
การใช้งานระบบนี้เรียบง่ายมาก ทั้งยังถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูงสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมได้กับหลากหลายอุตสาหกรรม โดยดึงข้อมูลพื้นฐานของบริษัทที่เข้าเยี่ยมมาโดยอัตโนมัติจากอินเทอร์เน็ต และรวมเข้ากับแผนที่และข้อมูลตำแหน่ง ทำให้พนักงานขายไม่ต้องเสียเวลาค้นหาข้อมูลเอง นอกจากนี้ ยังสามารถบันทึกข้อมูลบนนามบัตรได้ง่ายๆ ด้วยการถ่ายภาพผ่านกล้องสมาร์ทโฟน โดยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยอ่านและแปลงข้อมูลอย่างแม่นยำ พร้อมทั้งจัดเก็บลงในฐานข้อมูลได้ทันที
งานที่เคยใช้เวลานานอย่างการทำรายงานหลังกลับเข้าบริษัทก็จะไม่จำเป็นอีกต่อไป พนักงานขายสามารถป้อนข้อมูลการเจรจาธุรกิจได้ทันทีจากสมาร์ทโฟนผ่านการสั่งงานด้วยเสียง ระบบจะทำการแปลงเสียงให้เป็นข้อความโดยอัตโนมัติและบันทึกข้อมูลลงในบันทึกการขาย นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันมาตรฐานที่ช่วยแจ้งเตือนเมื่อพนักงานขายเดินทางไปทำงานใกล้กับลูกค้ารายอื่น โดย AI จะแจ้งว่า “ควรแวะที่นี่” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเยี่ยมลูกค้า
ระบบนี้สามารถติดตั้งบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตส่วนใหญ่ได้ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการใช้งานที่ง่ายแม้สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี เพียงแค่แตะหน้าจอตามลำดับ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาข้อมูลมากมายจากเว็บไซต์ภายนอกอีกต่อไป หัวหน้าของพนักงานขายในบริษัทสามารถตรวจสอบผลการเจรจาธุรกิจที่ถูกแชร์ไว้ได้ทันที ไม่ต้องรอให้พนักงานกลับมารายงานเอง
สำหรับบริษัทลูกค้าที่ “อยากเติมความรู้สึกสนุกสนานเข้ามาในกิจกรรมการขาย เพื่อให้พนักงานมีความคิดในเชิงบวกมากขึ้น” บริษัทก็ได้แนะนำให้ปรับแต่งไอคอนบนแผนที่ตามความต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าประจำที่การเจรจาธุรกิจสำเร็จลุล่วงแล้วและคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอใช้ไอคอนรูปเพชร ส่วนลูกค้าที่อยู่ระหว่างการเจรจาและอาจกลายเป็นลูกค้าในอนาคตใช้ไอคอนรูปหีบสมบัติ และสำหรับลูกค้าที่เจรจาอย่างยากลำบาก แต่ต้องการชนะคู่แข่งเพื่อให้กลายมาเป็นลูกค้าของตนใช้ไอคอนรูปการต่อสู้ การที่สามารถปรับเปลี่ยนไอคอนเหล่านี้ได้อย่างอิสระก็เป็นจุดที่เพิ่มความสนุกให้กับการทำงาน
■กลุ่มเป้าหมายในประเทศไทยคืออุตสาหกรรมการเงินและค้าปลีกแบบดั้งเดิม
เดือนกรกฎาคม 2023 เราได้เริ่มขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเลือกสิงคโปร์เป็นการขยายตัวในภูมิภาคเอเชีย ภารกิจที่คุณคาเนกิ ประธานบริษัท มอบหมายไว้ก็คือ “ให้ตัดสินใจเลือกประเทศเป้าหมายในการขยายธุรกิจภายใน 1 ปี” หลังจากการพิจารณาและตัดสินแล้ว ประเทศที่มีอัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนสูงถึง 98.8% ก็คือประเทศไทย คุณคาเนกิกล่าวว่า “ประเทศไทยมีบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมาก ดำเนินธุรกิจอย่างคึกคัก มีกิจกรรมทางการขายกันมากมายกว้างขวาง และมีความคุ้นเคยกับการใช้สมาร์ทโฟน” จึงผลักดันการแปลแอปพลิเคชันให้เป็นภาษาไทยทันที
โดยวางแผนที่จะเริ่มขยายตลาดในกลุ่มการเงินในประเทศไทย ซึ่งยังคงมีที่งานที่ยังต้องออกเยี่ยมลูกค้า เช่น ธนาคาร ประกันภัย และการติดตามหนี้สิน นอกจากนี้ยังให้ความสนใจในตลาดการจัดจำหน่ายที่มีร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม เป้าหมายที่ตั้งไว้คือการสร้างยอดขายจากต่างประเทศให้ถึง 1 พันล้านเยนภายในปี 2030 ซึ่งคุณคาเนกิ ประธานบริษัทระบุว่า “ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้” และยังชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในอนาคต
บริษัทยังแสดงความสนใจในตลาดประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน เช่น มาเลเซีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับไทย และอินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมากที่สุดในภูมิภาค ทั้งสองประเทศนี้ยังมีร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมจำนวนมาก และยังคงมีการออกเยี่ยมลูกค้าอยู่ดังเดิม ประธานคาเนกิกล่าวเสริมว่า “ผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีลักษณะเฉพาะที่ไม่พึ่งพาคู่มือการทำงาน เราจึงต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานได้ง่ายและมีความตรงไปตรงมายิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมการใช้งานของพวกเขา”
Related Articles