AI Technology

06.09.2024

ต้นกำเนิดของปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) เป็นสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มุ่งเน้นการสร้างระบบที่สามารถทำงานได้อย่างมีสติปัญญาแบบเดียวกับที่มนุษย์ทำ โดยมีการพัฒนาและการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ AI มายาวนาน แต่การศึกษาเกี่ยวกับ AI จริงจังเริ่มต้นขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ซึ่งมีการสร้างทฤษฎีและแนวคิดที่สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงโลกแห่งเทคโนโลยีอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้

ความเป็นมาของ AI
การพัฒนา AI เริ่มต้นจากการศึกษาความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการจำลองพฤติกรรมที่ฉลาดของมนุษย์ โดยในปี 1950 นักคณิตศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชื่ออัลลัน ทัวริง (Alan Turing) ได้เสนอ “การทดสอบทัวริง” (Turing Test) ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถของเครื่องในการจำลองพฤติกรรมมนุษย์ หากเครื่องสามารถทำให้ผู้ทดสอบไม่สามารถแยกแยะระหว่างการตอบคำถามของเครื่องและมนุษย์ได้ แสดงว่าเครื่องนั้นมีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ ทัวริงเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกแนวคิดที่สำคัญสำหรับ AI

ยุคเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์
การพัฒนา AI เริ่มต้นจากการศึกษาความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการจำลองพฤติกรรมที่ฉลาดของมนุษย์ โดยในปี 1950 นักคณิตศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชื่ออัลลัน ทัวริง (Alan Turing) ได้เสนอ “การทดสอบทัวริง” (Turing Test) ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถของเครื่องในการจำลองพฤติกรรมมนุษย์ หากเครื่องสามารถทำให้ผู้ทดสอบไม่สามารถแยกแยะระหว่างการตอบคำถามของเครื่องและมนุษย์ได้ แสดงว่าเครื่องนั้นมีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ ทัวริงเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกแนวคิดที่สำคัญสำหรับ AI

การประชุมดาร์ทมัธ
ในปี 1956 การประชุมที่มหาวิทยาลัยดาร์ทมัธ (Dartmouth College) ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของ AI ในการประชุมนี้ได้รวบรวมกลุ่มนักวิจัยที่มีชื่อเสียงในสาขาต่าง ๆ มารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการที่อาจจะทำให้เครื่องสามารถเลียนแบบการคิดของมนุษย์ได้ การประชุมนี้ได้ถูกจัดขึ้นโดยจอห์น แมคคาร์ธี (John McCarthy) ซึ่งเป็นผู้ที่ตั้งชื่อ “ปัญญาประดิษฐ์” และได้ตั้งขึ้นเพื่อสำรวจแนวคิดและเทคนิคในการพัฒนา AI

การพัฒนาในช่วงต้น
ในช่วงปี 1960 ถึง 1970 มีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ของ AI เช่น การสร้างโปรแกรมที่สามารถเล่นหมากรุกได้ โปรแกรม “Logic Theorist” ของอัลเลน นิวย์ (Allen Newell) และเฮอร์เบิร์ต ซิมอน (Herbert A. Simon) เป็นหนึ่งในโปรแกรมแรก ๆ ที่สามารถแก้ปัญหาทางตรรกะได้ และ “General Problem Solver” (GPS) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถหาทางออกจากปัญหาที่มีความซับซ้อนได้

การพัฒนาในยุคต่าง ๆ

ยุคทองของ AI
ในช่วงปี 1980 ถึง 1990 เป็นช่วงที่เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็วในด้าน AI ซึ่งมีการพัฒนาในด้านการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และระบบการรู้จำเชิงสัญลักษณ์ (Symbolic AI) โดยในช่วงนี้มีการพัฒนา “Expert Systems” ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กฎและฐานความรู้ในการแก้ปัญหาเฉพาะด้าน เช่น ระบบ MYCIN ที่ใช้ในด้านการแพทย์

ยุคการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning)
ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา การพัฒนาในด้านการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ได้เริ่มมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา AI โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “Neural Networks” ซึ่งมีการจำลองโครงสร้างของสมองมนุษย์ในการประมวลผลข้อมูล ตัวอย่างที่สำคัญคือการพัฒนาของระบบการรู้จำภาพและการแปลภาษา เช่น GPT (Generative Pre-trained Transformer) ของ OpenAI ที่สามารถสร้างข้อความที่มีความหมายและเป็นธรรมชาติ

ผลกระทบและอนาคตของ AI
AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในหลาย ๆ ด้านของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การช่วยให้การแพทย์มีความแม่นยำมากขึ้น การปรับปรุงการบริการลูกค้า การขับเคลื่อนรถยนต์อัตโนมัติ และอื่น ๆ นอกจากนี้ AI ยังมีบทบาทในการวิจัยวิทยาศาสตร์ การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ และการพัฒนาสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ในอนาคต การพัฒนา AI จะยังคงมีการเปลี่ยนแปลงและการก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ ด้านของสังคมและเศรษฐกิจ การวิจัยและการพัฒนา AI จะต้องมีการควบคุมและการดูแลเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างปลอดภัยและเป็นธรรม

ต้นกำเนิดของ AI เกิดจากการค้นคว้าและพัฒนาในด้านคอมพิวเตอร์และการจำลองพฤติกรรมของมนุษย์ ซึ่งได้มีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจากยุคแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราและมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปอีกขั้นในอนาคต

RECOMMEND