เมื่อเทียบกับญี่ปุ่นหรือไทยแล้ว เวียดนามมีค่าครองชีพที่ถูกกว่า ในโครงสร้างค่าธรรมเนียมเดียวกัน เวียดนามถูกมองว่าทำการค้าขายได้ยากกว่า แต่มีแนวโน้มว่าจากนี้ตลาดจะมีการเติบโตเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเมื่อมองไปถึงอนาคต การจัดเตรียมบริษัทในท้องถิ่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก็เป็นโอกาสที่จะสร้างความต่างในการต่อสู้ด้านธุรกิจได้
เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ Mr.Shoki Yoshino, Director จากบริษัท Safie Vietnam Co., Ltd. ซึ่งก่อตั้งในเวียดนาม เพื่อสอบถามว่าบริษัท Safie Inc. ที่ขยายไปเวียดนามและไทยในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มองว่าตลาดเวียดนามเป็นอย่างไร
ความแตกต่างของตลาดไทยและเวียดนาม
– ปีนี้ได้ขยายบริษัทไปเวียดนามในเดือนมกราคม และไปยังไทยในเดือนเมษายน ความแตกต่างของตลาดของสองประเทศนี้คืออะไรครับ
เวทีการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยและเวียดนามแตกต่างกัน ตลาดของไทยผ่านการพัฒนาแล้ว ทั้งด้านการผลิตและค้าขายปลีกต่างก็มีความทันสมัย ประชากรลดลงเหมือนที่ญี่ปุ่น และมีแนวโน้มที่จะมีเด็กแรกเกิดน้อยมีผู้สูงอายุมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ตลาดของเวียดนามยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา จากนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตทางเศรษฐกิจและยังขยายตลาดได้อีก
สำหรับไทยที่ตลาดอิ่มตัวแล้วนั้น การนำกล้องบันทึก Cloud “Safie” ออกจำหน่าย ถ้าตั้งราคาเท่ากับที่ญี่ปุ่น หรือค่อนข้างถูกกว่าเล็กน้อย เป็นที่น่าสนใจว่าลูกค้าจะมีท่าทีอย่างไร ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา แต่จากความรู้สึกแล้ว คิดว่าถึงราคาจะพอๆกับที่ญี่ปุ่น แต่ลูกค้าก็รับได้
ที่เวียดนามนั้น เมื่อเทียบกับไทยแล้วระดับราคาสินค้าจะถูกกว่า ถ้าขายในราคาเท่ากันก็น่าจะยาก ดังนั้นถ้าเปลี่ยนไปใช้กล้องที่หาได้ที่นั่น ส่วนระบบต่าง ๆ ก็คงเดิม แล้วขายในราคาที่ถูกลง ก็น่าจะรองรับระดับราคาสินค้าของเวียดนามได้
คุณอาจจะสงสัยว่า “แล้วทำไมต้องทำขนาดนั้น เพื่อให้ได้เข้าสู่ตลาดเวียดนามล่ะ” เวียดนามนั้นถือเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจมาก เพราะสามารถคาดหวังการเติบโตของตลาดได้ ถ้ารีบไปตั้งบริษัทแต่เนิ่นๆ แล้วทำให้เป็นฐาน Logistics และค้าขาย ก็จะสามารถใช้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจของ ASEAN ได้
– จุดเด่นของกล้องบันทึก Cloud ที่ทางบริษัทคุณใช้อยู่คืออะไร
กล้องราคาถูกมีอยู่มากมาย แต่ถ้าเป็นกล้องสำหรับบันทึกภาพวิดิโอ มักจะมีข้อจำกัดหลายอย่างเช่น “บันทึกภาพวิดิโอได้แค่ 3 วัน” “ต้องซื้อเครื่องบันทึกแยกอีกตัวนึง” “ต้องติดตั้งด้วยการเดินสายไฟ”
สำหรับกล้องของ Safie ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องบันทึกแยกหรือเดินสายไฟ แค่เพียงเปิดเครื่องก็สามารถดึงภาพขึ้นไป Cloud ได้ทันที ใช้งานง่าย จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และช่วยให้งานเดินหน้าได้
ซัพพอร์ต “การตรวจสอบทางไกล” สำหรับพื้นที่ก่อสร้างหรือโรงงานที่ทำการผลิตได้
– ที่เวียดนามนั้นได้เปิดให้บริการสำหรับธุรกิจด้านไหนบ้างครับ
หลัก ๆ แล้วก็จะเป็นบริการสำหรับพื้นที่ก่อสร้างและโรงงานที่มีการผลิตครับ สำหรับการก่อสร้างในเวียดนามนั้น การร่วมทุนกันระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้างสายญี่ปุ่นและบริษัทท้องถิ่น ถือเป็นการสร้างอาคารไปพร้อมกับชาวเวียดนาม แต่เคสที่ Project Manager เป็นคนญี่ปุ่นนั้นมีเยอะ
ถึงแม้ว่าทีมงานฝั่งเวียดนามจะมีเพียงพอ แต่ Project Manager ฝั่งญี่ปุ่นนั้นกลับขาดแคลน อยู่ในสภาวะที่ต้องวิ่งรอกไปดูงานก่อสร้างหลายที่ และด้วยผลกระทบจากการที่ Project Manager ฝั่งญี่ปุ่นไม่เพียงพอต่อการไปคุมหน้างาน ทำให้ฝั่งเวียดนามก็ไม่สามารถส่งคนไปคุมได้เช่นกัน
สำหรับเคสแบบนี้ Safie ได้ใช้วิธีควบคุมการทำงานจากระยะไกลพร้อมกันหลายที่ สามารถเช็คภาพย้อนหลังได้ด้วย สามารถเช็คคลิปวิดิโอย้อนหลังได้ถึงวันก่อนหน้าที่จะไปดูงาน ทำให้ได้รับข้อมูลอย่างไม่ขาดตอน จุดนี้ทำให้ลูกค้าพอใจมาก ยกตัวอย่างเช่น ในเคสที่บริษัทแม่อยู่ที่ประเทศอื่น เช่นสิงคโปร์ ก็สามารถส่งภาพวิดิโอที่ถ่ายจากไซต์งานในเวียดนามไปให้ตรวจสอบได้
อีกทั้ง ที่โรงงานผลิตในเวียดนาม การผลิตแบบอัตโนมัติยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ส่วนใหญ่ยังเป็นกระบวนการผลิตที่ใช้ฝีมือแรงงาน
ในเคสแบบนี้ เพื่อเป็นการป้องกันคุณภาพสินค้าไม่เสถียร การตรวจสอบว่ากระบวนการผลิตถูกต้องหรือไม่ เช็คว่าไม่มีขั้นตอนที่ไม่เหมาะสมหรือไม่นั้น เป็นสิ่งสำคัญมาก
ณ จุดนี้การติดตั้ง Safie ในโรงงาน ก็จะสามารถมองเห็นการทำงานของพนักงาน ทั้งโรงงานหลักที่อยู่ห่างไกลออกไป หรือแผนกควบคุมคุณภาพสินค้าก็สามารถตรวจสอบได้ตลอด ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องส่งคนไปประจำการที่โรงงานผลิตเป็นจำนวนมาก
– ที่เวียดนามมีร้านค้าขายของข้างทางเยอะ มีแผนที่จะให้บริการต่อธุรกิจรายย่อยบ้างไหม
ก็คาดหวังว่าจะทำอยู่เหมือนกันครับ ถ้าไปร้านค้าปลีกที่มาจากต่างประเทศ ก็จะเห็นว่ามีกล้องติดอยู่มากกว่าญี่ปุ่นถึง 10 เท่า เพื่อเป็นการป้องกันขโมย แต่ก็มีเคสที่ตัวพนักงานเองแอบทำเองด้วยเหมือนกัน ทำให้ความต้องการกล้องวงจรปิดนั้นเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะสามารถนำเสนอ Safie
หลังจากนี้ ร้านค้าแนวทันสมัยก็จะเพิ่มขึ้น คาดว่าความต้องการเพื่อการตลาดก็น่าจะสูงขึ้นไปด้วย ยอดขายนั้นสามารถเช็คได้จากข้อมูล POS หรือเงินสดในตู้แคชเชียร์ แต่ไม่สามารถเก็บข้อมูลเชิงลึก ทั้งเพศและอายุของลูกค้าได้อย่างที่คลิปวิดิโอสามารถทำได้ ในอนาคต เราอาจจะวิเคราะห์ข้อมูลจากลูกค้าที่ยืนรอต่อคิวหน้าแคชเชียร์ และนำเสนอเป็นฟีดแบคให้กับร้านค้าได้ด้วย
เวียดนามซึ่งใช้กล้องวงจรปิดเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว
– พนักงานที่ร้านไม่ลำบากใจต่อกล้องวงจรปิดบ้างเหรอ
ที่เวียดนาม การติดกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัย เพื่อตรวจความเรียบร้อยของสัตว์เลี้ยง ผู้สูงอายุหรือสมาชิกในครอบครัวนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ การที่ใช้กล้องในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว คิดว่าไม่น่าจะทำให้พวกเขารู้สึกลำบากใจนะครับ
– ทางด้านบริษัทลูกค้ามีเสียงตอบรับอย่างไรต่อ Safie บ้าง
ถ้าเป็นเสียงจากคนที่ดูแลด้าน IT ของผู้รับเหมาท้องถิ่นนั้น ด้วยความพวกเขาใช้กล้องกันอยู่แล้ว ก็มักจะมีคำถามเรื่องความปลอดภัย เทคนิคฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ เป็นหลัก หลายคนบอกว่า “ถ้าเป็นคุณภาพการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลจากญี่ปุ่นละก็ สามารถวางใจได้” แต่เราก็ตรวจสอบกฎหมายท้องถิ่นของไทยและเวียดนามก่อน ที่จะเปิดให้บริการอยู่แล้วครับ
เริ่มต้นที่ไทยและเวียดนาม ไปสู่การให้บริการ Supply Chain โดยรวม
– ช่วยเล่าเป้าหมายต่อจากนี้ให้ฟังหน่อยครับ
ก่อนอื่นเราอยากจะขยายธุรกิจไปยังบริษัทท้องถิ่นของเวียดนามครับ ดังนั้นด้วยการร่วมทำธุรกิจกับชาวเวียดนาม ทำให้สามารถแนะนำบริการได้อย่างไม่มีความคลาดเคลื่อน ณ ตอนนี้ เมื่อรวมผมแล้ว มีคนญี่ปุ่น 3 คน คนเวียดนาม 1 คน รวมเป็น 4 คนร่วมทำงานกันอยู่ คิดว่าจะไม่เพิ่มปริมาณคนญี่ปุ่นแล้ว จะทำให้เป็นบริษัทที่มีคนเวียดนามเป็นหลักครับ
สำหรับการทำธุรกิจในอนาคตนั้น ก็จะมุ่งเน้นไปที่การให้บริการสำหรับโรงงานผลิต เทคโนโลยีการผลิตของญี่ปุ่นนั้นมีคุณภาพสูง ส่วนหนึ่งของ Supply Chain นั้นก็คือไทยและเวียดนามนั่นเอง ด้วยการนำเสนอภาพวิดิโอกล้องวงจรปิด Cloud จากโรงงานผลิต มาช่วยซัพพอร์ทด้าน DX ก็จะส่งผลดีต่อบริษัทญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องในตอนต้นด้วย
พูดอีกอย่างคือ เราจะไม่ยึดติดอยู่ที่ประเทศหรือธุรกิจเดียวเท่านั้น แต่จะให้บริการด้านภาพวิดิโอไปยัง Supply Chain โดยรวม กลายเป็น 1 ในแพลตฟอร์มที่รวบเข้ากับบริษัทคู่ค้าที่เกี่ยวข้องให้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น เพิ่มเติมจากเวียดนามและไทย ที่ประเทศอาเซียนอื่นๆ ทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์นั้น ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและแหล่งผลิตการเกษตร ต่างก็มีความต้องการการตรวจสอบจากระยะไกลผ่านทางกล้องวิดิโอ Cloud ตอนนี้เราก็มีแผนที่จะเปิดธุรกิจลักษณะเดียวกันนี้ที่นั่นด้วยครับ
Related Articles