JRIT ICHI

ในกลุ่มประเทศอาเซียน เวียดนามมีประชากรวัยทำงานมากกว่า 50 ล้านคน และเนื่องจากจำนวนประชากรและอำนาจของประเทศเพิ่มขึ้น โครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาด้านกฎหมายต่าง ๆ ก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
บริษัทห้างหุ้นส่วนจำกัด PORTERS Corporation ที่ให้บริการ Cloud Resolution ซึ่งเชี่ยวชาญด้านธุรกิจทรัพยากรบุคคลนั้น หลังจากก่อตั้งที่สิงคโปร์ในเดือนสิงหาคม 2023 ก็ได้ก่อตั้งบริษัทที่เวียดนามด้วย
ครั้งนี้เรามีโอกาสพูดคุยกับ Mr.Kento Mizuochi, General Director ของบริษัท PORTERS ASIA VIETNAM CO.,LTD. ในเวียดนาม ถึงเรื่องปัญหาที่สามารถแก้ไขได้โดยการใช้ PORTERS เป้าหมายหลังจากนี้ และเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับตลาดในเวียดนาม

– ก่อนอื่นช่วยเล่าภาพรวมธุรกิจของบริษัทให้ฟังหน่อยครับ
บริษัทของเรามีหน้าที่ “Matching, Change your Business” โดยมีแนวทางคือ “เป็นบริษัทที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการจ้างงานในระดับโลก” เป็นบริษัทที่มี “PORTERS” ซึ่งเป็นบริการ Matching CRM สำหรับงานด้าน HR ช่วยแนะนำและช่วยจัดการบริหารทรัพยากรบุคคล
PORTERS คือ ระบบสมัครสมาชิก โดยบริษัทจัดหางาน หรือบริษัทรับสมัครพนักงานจะเป็นคนจัดการข้อมูลการรับสมัครและข้อมูลผู้สมัครงานเอง สามารถดำเนินขั้นตอนต่าง ๆ จนกว่าจะถึงการตัดสินใจเลือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเนื่องจากเป็น Cloud Base ดังนั้นนอกจากจะสามารถเข้าถึงได้จากทุกสถานที่ทุกเวลาแล้ว การเปลี่ยนจากกระดาษมาเป็นระบบจัดการด้วย Excel ปรับข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล จะทำให้สามารถตรวจเช็คได้ง่ายขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงธุรกิจต่อไป
ที่ตลาดเวียดนามนั้น บริษัทคู่แข่งอื่นมักจะ “นำเสนอระบบให้ลูกค้าแค่นั้นแล้วจบงาน” แต่สำหรับ PORTERS แล้ว เราดูแลต่อเนื่องอย่างใส่ใจหลังการขายด้วย ตัวระบบเองก็สามารถประยุกต์ได้ ดังนั้นเราจะฟังเสียงของลูกค้า แล้วปรับตามความต้องการ คิดว่านี่คือจุดเด่นของเราครับ

– ขอเหตุผลที่เลือกประเทศเวียดนามหน่อยครับ
มี 2 เหตุผลหลักครับ ข้อ 1 คือในบรรดาลูกค้าจากต่างประเทศที่ใช้บริการ PORTERS อยู่แล้วนั้น ประมาณ 20% เป็นบริษัทจากเวียดนาม
ข้อ 2 คือ เพราะเวียดนามมีอัตราการเพิ่มประชากรมากขึ้น สัดส่วนของประชากรวัยทำงานซึ่งเป็นส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจำนวนประชากรรวมได้เพิ่มจนเกิน 100 ล้านคน การเติบโตนี้ถือเป็นเรื่องน่าทึ่งมาก
ในขณะเดียวกัน ระบบกฎหมายที่ดูแลเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล และการสร้าง AI ยังพัฒนาตามไม่ทัน โครงสร้างพื้นฐานยังเติบโตไม่เต็มที่ ทำให้เกิดเป็น “ปัญหาความผิดพลาดที่มาจากการเติบโตไวเกินไป” ถึงแม้ว่าตลาดโดยรวมจะมีการขยายตัว แต่สิ่งที่จะมาช่วยซัพพอร์ทนั้นยังมีไม่เพียงพอ ซึ่ง PORTERS จะเข้ามาทำหน้าที่ช่วยเหลือตรงนี้เอง
ที่เวียดนามนั้น Digital Transformation ซึ่งถูกจัดอยู่ในประเภท “ใช้ในชีวิตประจำวัน” ถือเป็นการเริ่มต้นของสังคมไร้เงินสดที่มีความก้าวหน้าอย่างมาก แม้ในด้านธุรกิจอาจจะต้องรออีกสักระยะ แต่หลังจากนี้คนรุ่นใหม่ที่เติบโตมากับยุคดิจิทัลจะเข้ามาทำงานบริษัท จะทำให้ Digital Transformation ยิ่งก้าวหน้าไปอีก และนี่คือการพัฒนาของตลาดเวียดนามครับ

– เมื่อเทียบกับญี่ปุ่นแล้ว คิดว่าขนาดของตลาดเวียดนามและวัฒนธรรมเป็นอย่างไรบ้างครับ

ที่เวียดนามยังไม่มีรายใหญ่ที่เป็นผู้นำในวงการแบบที่ญี่ปุ่น แต่บริษัทที่ให้บริการด้านทรัพยากรบุคคลนั้น แน่นอนว่ามีมากมาย และในบรรดาชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานที่ญี่ปุ่น ชาวเวียดนามมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น การที่มีหน่วยงานมากมายที่ช่วยสนับสนุนคนที่ต้องการไปทำงานที่ญี่ปุ่น ถือเป็นจุดเด่นของที่นี่เลยครับ
จุดเด่นอีกอย่างคือ ทั้งที่เวียดนามและไทยนั้น ไม่ว่าจะเป็นวงการไหน ต่างก็มีค่าเฉลี่ยการลาออกจากงานสูง แต่ถึงกระนั้น ในแง่ของการต่อระบบได้ง่ายนั้น หมายถึงสามารถเปลี่ยนถ่ายได้ง่าย ก็ไม่ถือเป็นเรื่องแย่
สิ่งที่สำคัญคือ เหตุผลที่ว่า “ทำไมถึงลาออก” อยู่ที่บริษัทจัดหางานไม่ดีพอหรือเปล่า หรือผู้สมัครมองเห็นงานของที่อื่นดีกว่าหรือเปล่า การมาค้นหาเหตุผลเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับบริษัทเรา เวลาที่ทำการช่วยเหลือลูกค้า ก็จะคำนึงถึงจุดนี้อยู่เสมอ
สิ่งที่แตกต่างเป็นอย่างมากจากที่ญี่ปุ่นคือ การใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คในการรับสมัครงานเป็นเรื่องปกติ การที่ดูประกาศหาตำแหน่งงานนั้นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว ทางบริษัทเองก็ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค เป็นส่วนหนึ่งของการทำตลาดรับสมัครงานด้วย
และที่เวียดนามนั้น “เนื้อหาในประกาศรับสมัครงานนั้น ต้องลงไว้อย่างชัดเจน เพื่อที่จะจ้างคนที่มีทักษะเหมาะสมกับงานนั้น หรือมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน” การลงเจาะจงไว้อย่างละเอียดถือเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่ทางญี่ปุ่นจะลงประกาศรับสมัครงานในลักษณะรวมๆ ไม่เจาะจงหน้าที่ หรือสถานที่ทำงาน ถือเป็นวัฒนธรรมการจ้างงานที่แตกต่างกัน

– ด้วยการใช้บริการ PORTERS สามารถช่วยแก้ปัญหาแบบไหนได้อย่างเป็นรูปธรรม
PORTERS เป็นบริการที่ “จะช่วยแก้ไขปัญหาทั้งหมด ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในห้องทำงานของบริษัททรัพยากรบุคคล” ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลไม่ตรงกัน ข้อมูลใน excel ไม่ตรงกับเนื้อหาล่าสุด เรื่องเหล่านี้เราก็สามารถแก้ไขได้
และการแนะนำบุคคลตามภูมิภาคนั้น ถ้าทำตาม KPI ก็จะได้รับผลที่เพิ่มขึ้นพอประมาณ แต่การควบคุม KPI การทำข้อมูลให้เห็นภาพนั้น จะทำให้เข้าใจจุดที่เป็นปัญหาได้ ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงธุรกิจต่อไป
ด้วยการทำให้มองเห็นภาพการทำงานของบริษัททรัพยากรบุคคล และทำให้ข้อมูลตรงกัน ถือเป็นเรื่องที่เหมือนกันทั้งที่ญี่ปุ่นและเวียดนาม ในอีกด้าน จุดที่แตกต่างกันคือ ที่เวียดนามมีการเปลี่ยนถ่ายบุคคลบ่อยกว่า การที่คนที่ทำตำแหน่งที่ปรึกษา ทำหน้าแมตช์ผู้ที่ลงทะเบียนหางานไว้เองก็เปลี่ยนงานบ่อยเช่นกัน สำหรับบริษัททรัพยากรบุคคลแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาครับ
การจะแมตช์ตรงหรือไม่นั้น ระดับวุฒิภาวะของผู้ที่ทำตำแหน่งที่ปรึกษาก็มีส่วนสำคัญมาก แต่ถ้าใช้ระบบออโต้แมตช์ชิ่งของบริษัทเราแล้ว ถึงจะเป็นคนที่ทำตำแหน่งที่ปรึกษาระดับจูเนียร์ ก็สามารถเจอคนที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้ เพราะเราเอาทักษะของตำแหน่งที่ปรึกษามือโปรมาใส่ในระบบ ก็จะช่วยอุดช่องว่างเรื่องการมีหรือไม่มีประสบการณ์ได้

– กรุณาช่วยบอกกลยุทธทางการตลาดในอนาคต และความเป็นไปได้ที่ตั้งเป้าไว้ด้วยครับ

PORTERS ให้บริการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้บริษัททรัพยากรบุคคลของญี่ปุ่นมีความราบรื่น จากนี้จึงต้องปรับระบบให้เข้ากับตลาดของเวียดนามมากขึ้น
เรากำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทำให้รองรับภาษาเวียดนาม และเรื่องราคา ร่วมมือกับโซเชียลเน็ตเวิร์คของเวียดนามอย่าง “Zalo” และการปรับเปลี่ยน UI/UX ก็อยู่ในแผนของเราด้วย
เราได้รับการแจ้งจากลูกค้าเวียดนามว่า ยังมีปัญหาในเรื่องการแมตช์สกิล ความตั้งใจ กับเนื้อหาของงานอยู่ ซึ่งเราจะนำตรงนี้มาปรับใช้ด้วย และสิ่งที่เราทุ่มเทเป็นอย่างมากคือ การซัพพอร์ตหลังจากรับบริการไปแล้ว เราจะจ้างชาวเวียดนาม เพื่อมาทำเป็นทีม CS (Customer Success) ที่กลมกลืนไปกับท้องถิ่นอีกด้วย

ด้าน Global Network ของ PORTERS ตอนนี้เรามีฐานอยู่ที่ 4 ประเทศ คือ สิงคโปร์ เวียดนาม ไทย บังคลาเทศ แต่สำหรับที่เวียดนาม เรามีภารกิจคือ การทำให้ธุรกิจจบครบทุกอย่างได้ในประเทศ ดังนั้นสำหรับตัวผมเอง อยากจะทดลอง “การสลัดออกจากญี่ปุ่น” ให้ได้ครับ
สำหรับพวกเราที่ประจำอยู่ที่นั่นแล้ว เข้าใจได้ดีถึงความต้องการของเวียดนามและระดับความยากง่าย ดังนั้นในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย ตัวผมเองที่เป็นตัวแทนของบริษัทที่เวียดนาม ก็ตั้งใจจะรับผิดชอบเอง จะดึงความเป็นท้องถิ่นออกมาแล้วพัฒนาตลาดเวียดนามต่อไปครับ