EdTech ย่อมาจาก Educational Technology หมายถึง เทคโนโลยีด้านการศึกษา ซึ่งเมื่อนำมาใช้กับธุรกิจจะสามารถพัฒนาระดับความสามารถของพนักงาน และองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับองค์กรให้มีโอกาสเหนือคู่แข่ง และช่วยลดต้นทุนด้านการอบรม เพราะการเรียนรู้นั้นไม่รู้จบ
คุณนกรณ์ พฤกษ์พิพัฒน์เมธ CEO & Co-Founder ของ Conicle บริษัทที่ปรึกษา ผู้ออกแบบ และพัฒนาโซลูชั่น EdTech ให้แก่องค์กร กล่าวถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีการศึกษาว่า “ในช่วงชีวิตคน เราอาจมองว่า การเรียนสำคัญเฉพาะกับวัยเรียน เช่น นักเรียนในโรงเรียน นิสิต/นักศึกษาในมหาวิทยาลัย แต่ในความเป็นจริง การเรียนรู้เกิดขึ้นตลอดเวลา ต่อเนื่องมาจนถึงวัยทำงาน หรือแม้แต่หลังเข้าสู่วัยเกษียณ เพราะการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอจะทำให้มนุษย์เราเก่งขึ้น นั่นหมายความว่า องค์กรที่ส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้อยู่เสมอ ก็จะเข้มแข็งด้วย”
เกี่ยวกับ Conicle
เพราะการศึกษาสำคัญกับทุกช่วงวัย ยิ่งทำงานยิ่งควรเรียนรู้เพื่อให้เท่าทันยุคสมัย และยกระดับศักยภาพตัวเอง Conicle จึงก่อตั้งขึ้น เพื่อเป็นที่ปรึกษา และให้บริการโซลูชั่น EdTech แก่องค์กรธุรกิจต่าง ๆ ทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก โดยลักษณะบริการจะเป็นแพลตฟอร์มการศึกษา ทั้งภาคของผู้บริหาร และพนักงาน โดยมีส่วนประกอบหลัก คือ การพัฒนาทักษะ (Upskill) และการเพิ่มทักษะใหม่ (Reskill)
ความโดดเด่นของ Conicle คือ การมองว่า การเรียนรู้เกิดขึ้นตลอดชีวิต ดังนั้นหากบุคลากรในบริษัทมีการศึกษา และพัฒนาทักษะตัวเอง ตลอดจนเพิ่มเติมทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ องค์กรก็จะมีความแข็งแกร่งและยั่งยืน จึงพัฒนาโซลูชั่นที่หลากหลาย ตอบโจทย์กับทุกตำแหน่ง ด้วยหัวใจหลักที่ว่า ให้การเรียนรู้พัฒนาองค์กร ออกแบบหลักสูตรให้เหมาะกับผู้เรียน และมีประสบการณ์ร่วมที่ดี
“คีย์หลักของเรา คือ สร้างประสบการณ์เรียนรู้ หรือ Learning Experience แล้วขยายไปสู่ Learning Intelligence เพราะยุคนี้ เป็นยุคของ AI ไม่ใช่ว่า ทุกคนต้องเรียนเหมือนกัน แต่การจะรู้ว่าใครเหมาะกับอะไร เราต้องมี Data มาพิจารณา ซึ่งจะบอกได้ว่า ใครจะต้องเก่งอะไร และใครจะต้องพัฒนาหรือเรียนด้านไหนเพิ่ม” คุณนกรณ์ ขยายความ เนื่องจากโซลูชั่นของ Conicle มีการเก็บข้อมูลผู้เรียน นำมาประเมิน เพื่อพัฒนายิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ
คุณนกรณ์ อธิบายให้เห็นภาพกว้าง ๆ ว่า Conicle Solution สามารถดูได้ว่า พนักงานคนใดชำนาญด้านไหน เรียนหลักสูตรใดมาแล้วบ้าง สามารถพัฒนาทักษะใหม่ด้านใดได้อีก หรือยังมีทักษะอะไรที่บริษัทต้องการพัฒนา ก็สามารถจัดหามาให้บุคลากรเรียนรู้ได้
ประสบการณ์สนุกจากการเรียนรู้แบบ Conicle
1. Conicle Space เป็นกระบวนการเรียนรู้แบบ end-to-end เพื่อปลดล็อกศักยภาพของบุคลากร รูปแบบ คือ แพลตฟอร์มพัฒนาการเรียนรู้ สำหรับพัฒนาทักษะ (Upskill) และ เพิ่มทักษะใหม่ (Reskill) โดยมีบริการแยกย่อย ซึ่งล้วนใช้งานง่าย เรียนรู้เพลิดเพลิน เหมาะกับทุกองค์กร เช่น
Conicle Learn การเรียนรู้แบบ OnDemand ที่ให้ผู้เรียนเข้าถึงหลักสูตรแบบ Anywhere Anytime ทั้ง Casual Learning และแบบ Structure learning
Conicle Connect การเรียนรู้แบบมาเจอกันระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน ทั้งแบบ Class Training และแบบ Coaching
Conicle Grow การวางแบบแผนทักษะ (competencies) ที่แต่ละบุคคลจะต้องให้สอดคล้องกับเส้นทางอาชีพ
Conicle Share เป็นสังคมการแลกเปลี่ยนความรู้แบบ community of practice (COP)
Conicle Play เป็นการนำองค์ประกอบของเกม (Gamification) มาสร้างความน่าสนใจในการเรียนรู้ เช่น มีการให้ Point เพื่อดึงความมีส่วนร่วมมากขึ้น
ทั้งนี้ คุณนกรณ์ กล่าวว่า Conicle Space ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เหมาะกับทุกคนในองค์กร ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร ลงมาถึงระดับพนักงานทั่วไป เพราะการเรียนรู้สำคัญกับทุกหน้าที่
2. ConicleX from Experts โซลูชั่นนี้ เป็น Learning Content Library from Experts คือ คลังความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ “ลักษณะเหมือน Netflix of Corporate Learning”
ปัจจุบัน ConicleX อัดแน่นไปด้วยความรู้กว่า 1,000 หลักสูตร ใน 4 หมวดหมู่ ได้แก่
1) Business
2) Data
3) People Skill
4) Life Skill
3. Conicle Solution “บริการที่ปรึกษา” ให้แก่องค์กรต่าง ๆ ด้านการพัฒนาทักษณะความรู้บุคลากร
กลุ่มผู้ใช้บริการ EdTech จาก Conicle
“ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเราเป็นองค์กรธุรกิจต่าง ๆ เช่น บริษัทในตลาดหลักทรัพย์, บริษัทที่มีขนาดใหญ่ประกอบด้วยพนักงานจำนวนมาก เช่น เครือ ปตท., AIS, CP ALL หรือเมืองไทยประกันชีวิต” คุณนกรณ์ ยกตัวอย่างบริษัทที่ไว้วางใจเลือกใช้บริการของ Conicle ก่อนจะอธิบายเพิ่มว่า
“นอกจากบริษัทใหญ่ที่ต้องมีการพัฒนาบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากมีทีมงานจำนวนมากแล้ว ทาง Conicle ก็ให้บริการธุรกิจขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดเล็กด้วยเช่นเดียวกัน เพราะ Conicle มีบริการทั้งเป็นที่ปรึกษา และโซลูชั่นแบบออนดีมานด์ องค์กรขนาดเล็กสามารถเลือกเฉพาะซอฟแวร์ที่ต้องการได้ เช่น ต้องการเรียนรู้เฉพาะ Data หรือ เรื่องการเป็นหัวหน้ามือใหม่ ก็สามารถเลือกได้ตามสะดวก เพราะการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญ จึงออกแบบมาให้เหมาะกับทุกความต้องการ”
องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องทำ EdTech หรือ Digital Transformation หรือไม่?
EdTech เป็นเทคโนโลยีการศึกษาที่นำมาใช้เพื่อพัฒนาองค์กร เมื่อกล่าวถึง EdTech มักสัมพันธ์กับ Digital Transformation ซึ่งแน่นอน ย่อมมีคำถามตามมาว่า ทั้ง 2 อย่างจำเป็นหรือไม่
คุณนกรณ์ ยกตัวอย่างเป็นคำตอบ “ในมุมมองที่ Conicle เป็นบริษัทขนาดกลางมีพนักงานเกือบ 200 คน ดำเนินธุรกิจมาร่วม 10 ปี เราก็ผ่านการ Transformation มาจำนวนหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นผมคิดว่า องค์กรจะเล็ก กลาง หรือใหญ่ ทุกวันนี้ทุกคนต้องปรับตัว เพราะว่าหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเราอาจบอกว่า บริษัทกลุ่ม น้ำมัน พลังงาน ไม่ต้องปรับตัวก็ได้ เนื่องจากทุกคนต้องใช้น้ำมัน แต่ปัจจุบัน มีพลังงานทดแทนเข้ามา มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้ามาแล้ว ดังนั้นเรื่องการปรับตัวจึงเป็นเรื่องใหญ่ ตัวอย่างกลุ่มธนาคารเห็นได้ชัด ต้องปรับเป็น Digital Banking
ดังนั้นเรื่อง Transformation ไม่ใช่ทำ หรือไม่ทำ แต่ว่ามันโดนบังคับให้ทำอยู่แล้ว ไม่ว่าเราจะรู้ หรือไม่รู้ก็ตาม แล้วอีกอย่าง คือ ไม่ได้ทำทีเดียวจบ เพราะต้องทำไปแบบต่อเนื่อง หรือ Continuous
ส่วนว่า จะต้องเป็น Digital หรือเปล่า ผมมองว่า Digital ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับ Data แล้วก็เชื่อมโยงไปสู่ AI เป็นภาคต่อเนื่องซึ่งกันและกัน”
ประโยชน์ของ EdTech
จากประสบการณ์ของ Conicle ประโยชน์ของ EdTech ที่มีต่อธุรกิจ พอจะแบ่งให้เห็นชัด ๆ ได้ 4 ประการ นั่นคือ
1. ช่วยลดต้นทุนการอบรมพัฒนาบุคลากร ประเด็นนี้ คุณนกรณ์ อธิบายว่า หากเทียบกับการพัฒนาบุคลากรด้วยการจัดอบรมแบบออนไซต์ เป็นคลาส หรือจัดขึ้นหลายรุ่น ย่อมเกิดต้นทุนมากกว่าออนไลน์ เพราะนอกจากออนไลน์สามารถกลับมาดูซ้ำได้ ยังเลือกเรียนเฉพาะบุคคลได้อีกด้วย
2. วางแผนพัฒนาบุคลากรได้ง่าย เนื่องจากการเรียนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ มีฟังก์ชันการเก็บสถิติข้อมูลต่าง ๆ บริษัทจึงสามารถติดตามประเมินผลได้ง่าย เพราะเมื่อดูจาก Data จะเห็นเลยว่า พนักงานเรียนอะไรไปแล้วบ้าง มีแผนพัฒนาอย่างไร ตอนนี้เรียนถึงไหน แผนนี้สำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ อีกอย่าง คือ สามารถดูแนวโน้มได้ว่า ณ ปัจจุบันพนักงานยังขาดทักษะด้านใด องค์กรก็สามารถวางแผนพัฒนาบุคลากรได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. หลักสูตรเลือกได้ตามใจ อย่างกรณีบริการ ConicleX ที่รวมหลักสูตรจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ กว่า 1,000 หลักสูตร ทำให้บุคลากรสามารถเลือกเรียนสิ่งที่ตนสนใจเป็นพิเศษได้ตามต้องการ
4. มีที่ปรึกษาช่วยตอบโจทย์ แม้ลูกค้าจะมองเห็นทักษะที่ต้องการพัฒนา แต่หลายครั้งก็ยังต้องการที่ปรึกษา ซึ่งผู้ให้บริการอย่าง Conicle ก็สามารถเสนอแผน หรือกระบวนการที่เหมาะสมให้ได้ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่คิดที่ดี
EdTech ในประเทศไทย
คุณนกรณ์ ได้กล่าวถึงแนวโน้ม EdTech ในประเทศไทยไว้ว่า ที่ผ่านมา EdTech ถือว่าอยู่ในขาขึ้น โดยเฉพาะช่วงวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 จะเห็นได้ว่า การ Work from Home การเรียนออนไลน์ รวมไปถึง E-commerce มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก เนื่องจากผู้คนไม่สามารถออกมาใช้ชีวิตประจำวันภายนอกบ้านได้ และเมื่อได้ลองสัมผัสกับโลกออนไลน์แล้ว ผู้คนก็ต่างค้นพบความสะดวก และความประหยัดจากการลดต้นทุน ดังนั้นอนาคตข้างหน้า EdTech จะยิ่งเติบโตยิ่งขึ้น โดยอาจเติบโตในลักษณะ ไฮบริด เช่น ใช้ การเรียนแบบออนไลน์ และ Workshop Onsite ควบคู่กันไป
“ดังนั้น วันนี้ EdTech จึงต้องปรับตัวว่า จะทำอย่างไรให้สามารถพัฒนาคนได้จริง ๆ พัฒนาทักษะได้จริง ๆ สิ่งที่ Conicle มองและเชื่อมั่นก็คือ ไม่ใช่แค่การเรียนออนไลน์ แต่ต้องเป็นการเรียนแบบกระบวนการซึ่งจะนำไปสู่การทำงานได้จริง แปลว่า วันนี้ผู้เรียน ผู้สอน และองค์กรที่ลงทุนในเรื่องของ Learning ให้กับคนของเขาเองมีการคาดหวังผลลัพธ์ ดังนั้นโจทย์ของ EdTech ในอนาคต จึงไม่ใช่แค่คอนเทนต์ แต่เป็นเรื่องของที่เราจะไปช่วยให้ผู้เรียนสามารถทำงานจริง ทำงานได้ หรือสามารถ Reskill ได้ ทำอาชีพใหม่ได้ หรือมีทักษะใหม่ได้ ซึ่งจะเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นี่คือคำอธิบายของคุณนกรณ์
เป้าหมายในอนาคต ของ Conicle
คุณนกรณ์กล่าวว่า เป้าหมายต่อไปของ Conicle คือ การขยายองค์กรเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขยายธุรกิจไปยังนานาชาติ โดยเริ่มต้นจากภูมิภาคอาเซียน รวมไปถึงการพัฒนาบริการให้แข็งแกร่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม
สรุป
EdTech คือ เทคโนโลยีการศึกษา ซึ่งการศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงรั้วสถาบันการศึกษา เนื่องจากการเรียนรู้ไม่มีจุดสิ้นสุด แต่ยิ่งเรียนรู้ก็ยิ่งเชี่ยวชาญขึ้น เมื่อเทคโนโลยีเอื้อให้การเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ดังนั้น EdTech จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการยกระดับองค์กรให้เหนือคู่แข่ง
*********