JRIT ICHI

คุณภาพอากาศมีผลโดยตรงต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของมนุษยชาติ โดยเฉพาะในยุคที่โลกได้รับการพัฒนาจากเทคโนโลยีต่างๆและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5 และก๊าซเรือนกระจกเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น ในทางกลับกันเทคโนโลยีก็สามารถช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศได้ด้วยเช่นกันหรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อ Air-Tech (เทคโนโลยีทางอากาศ) นั่นเอง

ฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของมนุษยชาติและสัตว์ โดยมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ, หัวใจ, และอวัยวะอื่นๆ การพัฒนา Air Tech ที่สามารถกรองออกฝุ่นและมลพิษเหล่านี้จึงมีผลโดยตรงต่อการปรับปรุงสุขภาพ การใช้เทคโนโลยีทางอากาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ และนอกจากนี้การลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่ปล่อยจากกิจกรรมต่าง ๆ ย่อมช่วยลดการเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีการตรวจวัดคุณภาพอากาศสามารถช่วยในการระบุแหล่งกำเนิดของมลพิษและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับระดับมลพิษในอากาศ ยกตัวอย่างเช่นการใช้ Air-Tech อย่าง Air purifiers ที่ใช้กรอง HEPA และเทคโนโลยีการละลายสารละลายทำให้เราสามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศในบริเวณใกล้เคียง หรือการนำเข้าแหล่งพลังงานทดแทนเข้ามาในเทคโนโลยีทางอากาศช่วยลดการผลิตก๊าซเรือนกระจกและเป็นที่ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม อย่างพลังงานแสงอาทิตย์และ พลังงานลมเป็นต้น

เทคโนโลยีทางอากาศ (Air Tech) เป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศและการลดผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษยชาติและสิ่งแวดล้อม Air Tech ไม่เพียงแค่เป็นเทคโนโลยีที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาในปัจจุบันแต่ยังเป็นความหวังในการสร้างอนาคตที่มีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น ด้วยความร่วมมือระหว่างนักวิจัย, ธุรกิจ, และรัฐบาล การพัฒนา Air Tech จะสร้างโอกาสในและผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพและเพื่อสร้างอนาคตที่มีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นอีกด้วย