Digital

Others

12.01.2024

【Network Technology】Mobility & Wireless ยุคของเครือข่ายไร้สาย ติดปีกให้องค์กร

ช่วงเวลาที่ผ่านมา อินเตอร์เน็ต และระบบเครือข่าย (Network) พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำให้โลกแคบลงได้ แม้จะอยู่กันคนละซีกโลกก็ส่งงานถึงกันได้ง่ายคล้ายมีเพียงผนังห้องกั้น ส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ พัฒนาธุรกิจของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ในอีกด้านหนึ่ง เทคโนโลยีเหล่านี้ก็พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน จะสังเกตได้ว่าจากยุคแรกเริ่มที่ใช้ระบบส่งสัญญาณผ่านสายเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันเกิดการส่งสัญญาณไร้สายเข้ามาเป็นตัวเลือกร่วมด้วย วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ทำความรู้จักกับระบบไร้สายให้มากขึ้น รวมไปถึงข้อเด่นข้อด้อย และลักษณะขององค์กรที่เหมาะกับการใช้งานเครือข่ายระบบไร้สาย โดย คุณกิติพงศ์ อนุสรณ์พงศ์ Managing Director, DTC Internetworking Co.,Ltd ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบวางระบบพร้อมทั้งให้คำปรึกษา เป็นผู้มาให้ความรู้กับพวกเราในเรื่องนี้ด้วยตนเอง

ความแตกต่าง และความสัมพันธ์ของ ระบบ wired, wireless และ mobility
ก่อนลงไปยังรายละเอียด ประโยชน์ ความโดดเด่นของระบบเครือข่ายไร้สายแต่ละประเภท คุณกิติพงศ์ ได้อธิบายถึงความแตกต่าง และความสัมพันธ์ของระบบเครือข่ายแบบใช้สาย และไร้สายดังนี้

Wired
ระบบเครือข่ายแบบ Wired ความหมายก็ตรงตัว คือ เชื่อมต่อด้วยสาย ไม่ว่าจะเป็นสายเคเบิล หรือไฟเบอร์ ก็จัดอยู่ในประเภท Wired หรือการเชื่อมต่อด้วยสายนั่นเอง

ข้อดี ของการเชื่อมต่อด้วยสาย คือ ส่งสัญญาณได้อย่างเสถียร และรวดเร็ว ปัจจุบันพัฒนาสายเป็น ไฟเบอร์ ออฟติก (Fiber Optic) ทำให้สามารถส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ได้เร็วมากขึ้น ถึงระดับ 100 Gb เหมาะกับองค์กรใหญ่ ๆ เช่น มหาวิทยาลัย ซึ่งมีผู้ใช้งานจำนวนมาก
เมื่อพูดถึงระบบเครือข่ายแบบ Wired หลายท่านอาจมองว่าติดตั้งได้เฉพาะภายในอาคาร แต่ปัจจุบันมีผู้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ตผ่าน Fiber Optic หลายราย ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสายได้ไกลหลายกิโลเมตร และเราสามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการเหล่านี้ได้

Wireless
สำหรับ Wireless ก็คือการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณวิทยุ หรือ WiFi นั่นเอง ส่วนมากใช้ภายในอาคารแบบ Wireless Local Area Network
ขณะนี้แม้การส่งข้อมูลผ่านระบบสาย จะเร็วกว่า WiFi แต่คาดว่าในอนาคต เทคโนโลยี WiFi จะพัฒนาขึ้นมาก

Mobility
ในส่วนของ Mobility คือ การเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ และการใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังนั้น คุณกิติพงศ์ จึงมองเป็นลูกผสม หรือ Hybrid เพราะไม่ได้จำกัดเฉพาะในสำนักงาน เพราะสามารถใช้เชื่อมต่อสัญญาณภายนอกได้ด้วย ผ่าน 4G, 5G เป็นต้น พร้อมทั้งนำไปทำงานภายนอกได้เหมือนอยู่ในออฟฟิศ

ความสัมพันธ์
ระบบเครือข่ายทั้ง 3 ประเภท แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ คุณกิติพงศ์ กล่าวว่า ทั้งหมดสัมพันธ์กัน ทำงานร่วมกัน เนื่องจาก

“การเชื่อมต่อแบบ Wired ได้ความชัวร์ ความมั่นใจ เพราะมันเชื่อมต่ออยู่ เรามองเห็น สายหลุดหรือไม่หลุด อีกทั้งได้ความเร็วที่ก็เสถียร แต่พื้นที่ใช้งานจำกัด ส่วนมากก็จะจำกัดพื้นที่อยู่ภายในองค์กร

แต่หากเป็น Wireless ข้อดี คือ ความคล่องตัว เช่น พนักงานฝ่ายขาย มักไม่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเพียงอย่างเดียวทั้งวัน หลายครั้งต้องลุกไปประชุมที่ห้องประชุม คราวนี้พอถือ Notebook ไปห้องประชุม ถ้าไม่มี Wireless เชื่อมตามไปด้วย ผมก็ต้องบันทึกข้อมูลที่จะพรีเซ็นต์เอาไว้ในเครื่อง แล้วก็พูดตามข้อมูลที่มี ประเด็นอะไรที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามา ก็ไม่สามารถเสนอได้ เพราะต้องวิ่งกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง แต่ถ้ามี Wireless ผมก็สามารถดึงข้อมูลมาประชุมได้ทันที” คุณกิติพงศ์ ยกตัวอย่าง พร้อมทั้งสรุปว่า ดังนั้นทุกรูปแบบจึงสัมพันธ์กัน เพราะองค์กรต้องมีระบบการส่งข้อมูลที่เสถียร รวดเร็ว ซึ่งเป็นข้อดีของ Wired และ และครอบคลุม อันเป็นจุดเด่นของ Wireless”

ในส่วนของ Mobility คุณกิติพงศ์ สรุปว่า เป็นความสัมพันธ์ในเรื่องความคล่องตัว มีจุดประสงค์เพื่อทำงานจากภายนอกบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลบริษัทได้ เช่น เมื่อต้องออกไปประชุมกับลูกค้าภายนอก ณ สถานที่ไม่มีสัญญาณ WiFi ด้วยข้อมูลไม่เยอะมาก ก็สามารถนำแท็ปเล็ตที่เชื่อมต่อกับ 5G ไปประชุมได้อย่างคล่องตัว

เลือกใช้ระบบเครือข่ายไร้สายแบบไหนดี
สำหรับการเลือกใช้ระบบเครือข่ายไร้สาย คุณกิติพงศ์ แนะนำว่า ให้พิจารณาจากรูปแบบการทำงานขององค์กรเป็นหลัก เช่น เน้นทำงานนอกสถานที่หรือไม่ เน้นให้พนักงาน Work From Home หรือไม่ หากเน้นให้พนักงานออกต่างจังหวัด การเลือกใช้ระบบ Mobility ดูจะเหมาะสมกว่า พร้อมทั้งแนะนำเรื่องการใช้ระบบเครือข่ายไร้สายว่า

“หากจะถามว่าธุรกิจแบบใดที่ควรนำระบบเครือข่ายไร้สายมาใช้? จริงๆ แล้วปัจจุบันเทคโนโลยีเน็ตเวิร์ค หรือ WiFi อยู่ใกล้มือทุกคนมากๆ แม้กระทั่งเด็ก ๆ ก็เล่นแท็บเล็ต ต่อ WiFi เปิด YouTube กันคล่องแล้ว

แต่ในมุมของภาคธุรกิจ หากอยากจะเริ่ม ต้องมองโครงสร้างขององค์กรก่อนเป็นอันดับแรก เช่น เมื่อเจ้าของธุรกิจต้องการให้พนักงานทำงานผ่านแท็ปเล็ต เพื่อให้นำแท็ปเล็ตไปเปิดโปรแกรมนั่งทำงานอยู่ที่ไหนก็ได้ แต่ทว่าโปรแกรมที่บริษัทใช้อยู่ในปัจจุบัน รองรับการติดตั้งบน PC เท่านั้น ยังไม่อัปเดตให้สามารถติดตั้งได้จากเว็บไซต์ หรือพัฒนาเป็นแอปฯ ที่เปิดผ่านแท็ปเล็ตได้ ในกรณีนี้ บริษัทก็ยังไม่สามารถใช้ระบบเครือข่ายแบบไร้สายอย่างที่ตั้งใจไว้ได้

หรือบางทีสำนักงานวางระบบเครือข่ายแบบ LAN มาตั้งแต่ต้น อยู่ ๆ จะหันมาใช้ Wireless ทั้งหมดเลย ก็อาจจะเกิดความยุ่งยากได้ ดังนั้น สำหรับองค์กรที่ต้องการปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบเครือข่ายไร้สาย จึงควรขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน เริ่มต้นจากการบอกถึงวัตถุประสงค์ของเรา เขาก็จะสอบถามถึงลักษณะการทำงานว่าอนาคตวางแผนไว้อย่างไร จะมีการย้ายสถานที่อีกไหม ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวางแผนในการลงทุนวางระบบ เพื่อไม่ให้เกิดการเสียงบลงทุนซ้ำซ้อน รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ก็จะได้เลือกให้เหมาะกับแผนของธุรกิจ”

เลือกผู้เชี่ยวชาญจากอะไร
การเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มาช่วยงาน ส่วนมากตัดสินใจจากใบเซอร์ หรือประกาศณียบัตร ใบรับรองมาตรฐาน จากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ สำหรับผู้เชี่ยวชาญ หรือบริษัทรับออกแบบวางระบบเครือข่ายนั้น คุณกิติพงศ์ กล่าวว่า ทุกบริษัทมีวิศวกรชำนาญการประจำ จึงมีความน่าเชื่อถืออยู่แล้วระดับหนึ่ง

ส่วนใบรับรอง บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์มักเป็นผู้ออกให้ รูปแบบคือ เมื่อทางผู้ผลิต ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายมา ก็จะเชิญวิศวกรของบริษัทที่ปรึกษาและรับออกแบบไปอบรมการใช้งานอย่างถูกต้อง เพื่อสามารถติดตั้งอุปกรณ์นั้น ๆ ได้อย่างถูกวิธี ดังนั้นการเลือกบริษัทออกแบบวางระบบเครือข่าย จึงควรเลือกจากการพูดคุยปรึกษา ประวัติการทำงาน และความเชี่ยวชาญในงานประกอบด้วย

อนาคตของระบบเครือข่ายไร้สาย
อนาคตของระบบเครือข่ายไร้สายนั้น คุณกิติพงศ์ มองว่า จะมีตัวเลือกสำหรับองค์กรมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวก เพิ่มความคล่องตัว ช่วยลดต้นทุน และเทคโนโลยีเครือข่ายก็กำลังพัฒนาต่อเนื่องไปอย่างรวดเร็ว เช่น เทคโนโลยี WiFi ซึ่งปัจจุบันก้าวเป็น WiFi 6, WiFi 6E ที่มีความเร็วสูงขึ้นมาก แต่ปัจจุบันธุรกิจในไทยเรายังใช้ WiFi 5 อยู่เป็นส่วนใหญ่

นอกจากนี้สัญญาณ cellular แบบ 5G ก็มีความเร็วสูง รวมทั้งค่าบริการของ Cloud ก็ถูกลง ทำให้การใช้ระบบเครือข่ายบนคลาวด์ รวมทั้งการเช่าโปรแกรมสำนักงานต่าง ๆ ถูกลงด้วย

คุณกิติพงศ์ ยังบอกอีกว่า เทคโนโลยีเครือข่ายบนคลาวด์สามารถเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อสาขาต่าง ๆ ให้เป็นเหมือน Network วงเดียวกันได้ เอื้อให้ ฝ่าย IT คนเดียว สามารถแก้ไขปัญหาให้กับสาขาที่อยู่ไกล ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

“ผมมองว่า แท็ปเล็ตเองจะเป็น game changer เพราะมันถูกนำมาใช้ในองค์กรเยอะมากขึ้น ลูกค้าผมเปลี่ยนมาใช้แท็ปเล็ตกันมากขึ้น สำหรับเครื่อง PC จะเน้นซื้อสเป็คสูง ๆ สำหรับงานกราฟฟิกหรือ หน่วยงานที่ต้องการกำลังการประมวลผลสูงๆ เช่น หน่วยงานบัญชี, หน่วยงาน Data Analytic เป็นหลัก เนื่องจากแท็ปเล็ตมีขนาดเล็ก ใช้สะดวก พกง่าย ดังนั้นสิ่งที่จะตามมา ก็คือ Software เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเครื่องมีการเคลื่อนที่ออกไปตามสถานที่ต่าง ๆ ภายนอกสำนนักงาน จึงต้องมีซอฟแวร์มาป้องกันข้อมูล และซอฟแวร์บริหารจัดการเพื่อควบคุมเครื่องอื่น ๆ ซึ่งระบบเครือข่ายไร้สายมีบทบาทสำคัญมากในส่วนนี้”

สรุป
จากบทสัมภาษณ์ คุณกิติพงศ์ เราจะเห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีระบบเครือข่ายไร้สายมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โลกจะไร้พรมแดนมากขึ้นกว่าเดิมด้วยระบบเครือข่ายไร้สาย องค์กรจะเปรียบดั่งเสือติดปีก หากเลือกจะทำความรู้จัก และปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยระบบเครือข่ายไร้สายตั้งแต่ตอนนี้

RECOMMEND