ปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเข้ามามีบทบาทต่อการพัฒนาองค์กรให้ก้าวล้ำและสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ เราอาจได้ยินเรื่องราวของการปรับองค์กรให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งมีหลายเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Cloud และ Application ต่าง ๆ มากมาย แต่องค์กรจะไม่สามารถบริหารจัดการสิ่งเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพได้เลย หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเน็ตเวิร์กที่ดีและมีความเสถียร และมีความเหมาะสมกับการใช้งานขององค์กรอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดเทคโนโลยีต่าง ๆ ในวันนี้ขอกล่าวถึง 3 เทคโนโลยีหลักที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถเตรียมพร้อมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ได้แก่
Cloud
Cloud นั้นไม่ใช่มีไว้แค่เก็บข้อมูล หรือแชร์ข้อมูลเหมือนที่ผ่านมา ปัจจุบันมี Application และ platform มากมายที่มีการติดตั้งและให้บริการบน Cloud สามารถแบ่งเป็น 3 ประเภทได้แก่
1. IaaS (Infrastructure as a service) ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ Server และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ที่เดิมองค์กรจำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ที่สำนักงาน ต้องมีคนดูแลระบบดังกล่าว และยังต้องเสียค่า MA อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางครั้งองค์กรอาจใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากกระบวนการการจัดซื้อที่อาจต้องมีการประเมินเผื่อสำหรับการใช้งานในอนาคต ทำให้องค์กรเสียค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์ แต่ระบบ Cloud สามารถแก้ไขปัญหาส่วนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ Pay per use หมายถึง การจ่ายค่าใช้บริการเท่าที่ใช้งานจริง และหากต้องการขยายการใช้งานให้เพิ่มขึ้นก็สามารถซื้อเพิ่มได้ภายหลัง โดยไม่ต้องเผื่อทรัพยากรไว้ก่อน
2. PaaS (Platform as a service) บริการทางด้าน Platform ที่ใช้สำหรับพัฒนา Software เหมาะสำหรับองค์กรที่มีทีมพัฒนา Software หรือ Application โดย Platform ที่ให้บริการบน Cloud จะมีเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง Software หรือ Application ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพื่อให้บริการต่อหรือการสร้างเพื่อใช้งานภายในองค์กรเอง PaaS จึงเหมาะมากสำหรับองค์กรยุคใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการดำเนินการ มีความรวดเร็วในการติดตั้งและพร้อมใช้งาน
3. SaaS (Software as a service) บริการ Software หรือ Application บนระบบ Cloud ที่เปิดให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้งานได้โดยการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต โดยที่องค์กรไม่จำเป็นต้องซื้อโปรแกรมมาลงที่ Server หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลให้กับพนักงานอีกต่อไป เป็นการช่วยสนับสนุนให้พนักงานสามารถทำงานแบบออนไลน์ได้แบบทุกที่ทุกเวลา สามารถเข้าถึง Application ต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านระบบ Cloud
ในยุคปัจจุบันที่องค์กรต้องบริหารจัดการงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การใช้งาน Cloud จึงเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในเรื่องดังกล่าว ช่วยให้องค์กรไม่ต้องทุ่มงบประมาณเพื่อซื้อฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์อีกต่อไป โดยที่องค์กรสามารถจ่ายค่าบริการได้ตามปริมาณการใช้งานจริงในแต่ละช่วงเวลา และที่สำคัญยังมีความยืดหยุ่นสูงในการขยายหรือปรับเพิ่มการใช้งานได้ในอนาคต
SD-WAN ระบบเชื่อมต่อข้อมูลอัจฉริยะ
SD-WAN ย่อมาจาก Software Defined Wide Area Network เป็นระบบเชื่อมต่อข้อมูลอัจฉริยะ ที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายรูปแบบ และสามารถตอบโจทย์การทำงานร่วมกับ Cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากในอดีตการเชื่อมต่อโครงข่ายสำหรับองค์กรที่มีจำนวนหลายสาขาจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับสำนักงานใหญ่เพื่อเข้าถึงข้อมูลและแอปพลิเคชันขององค์กร รวมทั้งต้องออกอินเทอร์เน็ตผ่านสำนักงานใหญ่ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ที่ชื่อว่า “Software Defined Wide Area Network (SD-WAN)” เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการเชื่อมต่อให้หลากหลายมากขึ้น องค์กรสามารถกำหนด Policy ของแต่ละสาขาให้สามารถเชื่อมต่อระหว่างกันโดยที่ยังสามารถออกอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตนเอง (Internet Local Breakout) อีกทั้งองค์กรสามารถมีตัวเลือกการใช้งานผ่านวงจรประเภทต่าง ๆ (Hybrid WAN) ได้ อาทิเช่น MPLS, FTTx, Internet หรือ 4G/5G ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของโครงข่ายขององค์กรในแต่ละสถานที่ นอกจากนี้ ยังสามารถกำหนดเส้นทางของทราฟฟิกตามแอปพลิเคชันที่ใช้งานในองค์กรได้อีกด้วย ทำให้การใช้งานวงจรเป็นไปอย่างคุ้มค่าและปลอดภัยกว่าเดิม
บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (UIH) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและโซลูชันสำหรับองค์กร (Digital Infrastructure & Solution Provider for Business) ให้ข้อมูลว่า SD-WAN ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรทุกรูปแบบ สามารถรองรับความเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง และมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากรูปแบบองค์กรจากนี้และอนาคตจะเน้นใช้ Software และ Application ต่าง ๆ บน Cloud เพิ่มขึ้น เทคโนโลยี SD-WAN จะเข้ามาช่วยให้ทราฟฟิกสัญญาณอินเทอร์เน็ตมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (UIH) ให้เหตุผลที่องค์กรควรใช้ SD-WAN ว่า
1. ช่วยทำให้ธุรกิจมีความคล่องตัว และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เนื่องจากสามารถรองรับการเชื่อมต่อ Hybrid WAN หลากหลายรูปแบบ สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่านสำนักงานใหญ่ (Headquarter) หรือ Data Center
2. ช่วยยกระดับความปลอดภัย เพราะทราฟฟิกที่ไม่รู้จักจะถูกส่งไปยังบริการรักษาความปลอดภัยในแอปพลิเคชันแต่ละรายการโดยอัตโนมัติตามนโยบายความปลอดภัย
3. ทำให้องค์กรสามารถบริหารจัดการเครือข่ายแบบศูนย์รวม เพราะสามารถบริหารจัดการวงจรสื่อสารและอุปกรณ์เครือข่ายด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็น Fault Management, Performance Management และ Configuration Management
4. ติดตั้งง่าย รวดเร็ว และประหยัด เพราะเชื่อมต่อผู้ใช้กับแอปพลิเคชันบนคลาวด์โดยตรง ลดค่าใช้จ่ายด้านใบอนุญาตใช้งานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึงความต้องการบุคลากรประจำไซต์เวลาทำการเปลี่ยน หรือแก้ไขปัญหาเครือข่ายที่ใช้เวลานาน
5. ทำงานผ่าน Single Portal ช่วยให้เห็นภาพรวมการใช้งานและปริมาณการรับ-ส่ง ข้อมูลผ่านโครงข่ายในระดับแอปพลิเคชัน รวมถึงผู้ใช้งานปลายทาง เพื่อนำมาปรับปรุง และพัฒนาโครงข่ายสื่อสารภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
WiFi as a Service สำหรับผู้ใช้งานองค์กร
ในโลกยุคดิจิทัลอาจกล่าวได้ว่า เรามีความจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา แต่อินเทอร์เน็ตไม่ได้เป็นเพียงแค่เป็นเครื่องมือสำหรับการเข้าถึงข้อมูลและบริการต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจแห่งการสื่อสารและการทำงานในชีวิตประจำวันของเราด้วย ปัจจุบันผู้ใช้งานในองค์กรส่วนใหญ่จะมีการใช้งานเชื่อมต่อทั้งภายในและภายนอกองค์กรผ่านเครือข่าย Wi-Fi ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน โรงแรม สถานศึกษา หรือโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันเทคโนโลยี Wi-Fi ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานขององค์กรธุรกิจเพิ่มมากขึ้นทั้งในเรื่องความเร็วและเสถียรภาพ ทั้งยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาระบบต่าง ๆ ขององค์กรอีกด้วย เช่น ระบบควบคุมอาคารของสำนักงานหรือสายการผลิตของโรงงาน หรือที่เราเรียกว่า Internet of things (IoT) ซึ่งในอดีตการติดตั้ง Wi-Fi นั้น องค์กรจำเป็นต้องลงทุนติดตั้งและดูแลอุปกรณ์ด้วยตนเอง ทำให้ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงในการดำเนินการ บริการ WiFi as a Service จึงถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าระดับองค์กร ซึ่งผู้ให้บริการจะทำการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับกิจกรรมต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง ทำให้องค์กรได้รับเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินการภายในองค์กร มีความยืดหยุ่นในการปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับกิจกรรมทางธุรกิจที่อาจเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้ในระยะยาว
1. มีความเหมาะสมเพื่อใช้งานของลูกค้าระดับองค์กร ด้วยลักษณะของการให้บริการ WiFi as a Service ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรนั้น ๆ เช่น มีระบบการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน มีระบบการเก็บ Log ที่ตรงกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
2. เสถียรและรวดเร็วกว่า เพราะมีการใช้งานอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง มีการออกแบบการติดตั้งอุปกรณ์ภายในและภายนอกอาคาร มีการปรับจูนสัญญาณให้เหมาะสมกับพื้นที่ ทำให้การใช้งานมีความเสถียรสูง หมดปัญหาเรื่องสัญญาณไม่ดี
3. ปลอดภัยจากภัยคุกคาม เพราะสามารถใช้งานร่วมกับระบบการยืนยันตัวตนเพื่อใช้ตรวจสอบผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้
4. มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยพร้อมให้บริการ ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว การใช้บริการ WiFi as a Service จึงตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการอุปกรณ์ที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพราะ UIH เลือกใช้อุปกรณ์ Access Point โมเดลใหม่ล่าสุดเสนอให้ลูกค้า เช่น ปัจจุบันอุปกรณ์ Access Point รองรับเทคโนโลยี WiFi6 และเมื่อเทคโนโลยี WiFi7 พร้อมให้บริการในประเทศไทย UIH มีความพร้อมในการให้บริการได้ทันที
5. มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลระบบตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง และบริการหลังการขายเป็นอย่างดีตลอด 24 ชั่วโมง สามารถรับรู้และเข้าแก้ไขได้ทันทีเมื่อเกิดปัญหาเพื่อให้ธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากที่สุด
สรุปประโยชน์ 3 เทคโนโลยีเน็ตเวิร์กอัจฉริยะ
ทั้ง 3 เทคโนโลยีที่กล่าวมานั้น ล้วนมุ่งไปที่การผลักดันให้ธุรกิจขององค์กรประสบความสำเร็จอย่างมีเสถียรภาพ สะดวก ทำงานง่าย ปลอดภัย สามารถบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น ปัจจุบันธุรกิจต่าง ๆ ต้องการความรวดเร็วและสามารถตอบสนองได้อย่างทันเวลา เทคโนโลยีเหล่านี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เมื่อการเชื่อมต่อต่าง ๆ มีประสิทธิภาพแล้วสิ่งที่จะขาดไม่ได้คือ ความปลอดภัย เนื่องจากมีการเชื่อมต่อผ่านระบบอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาและเมื่อข้อมูลอยู่บนระบบออนไลน์ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรของเราได้เป็นอย่างดี และที่กล่าวมาคือปัจจัยที่องค์กรในปัจจุบันควรให้ความสำคัญเพื่อให้เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรได้อย่างยั่งยืน
เป้าหมายการให้บริการในอนาคตของ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด
การส่งมอบเทคโนโลยีที่ดีและมีประสิทธิภาพ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กร เป็นสิ่งที่ UIH ให้ความสำคัญต่อการนำเสนอโซลูชันที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจและเติบโตได้ในระยะยาว ด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และทีมงานที่มากไปด้วยประสบการณ์ทั้งความรู้และความเชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยี พร้อมสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าแบบครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า หากเราสามารถส่งมอบบริการที่ดีให้กับลูกค้าของเราได้ สนับสนุนให้ลูกค้าของเราสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน UIH ก็จะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนเช่นกัน