JRIT ICHI

ยกระดับการศึกษา: เส้นทางสู่ความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของสังคม by Vonder Thailand

วงการการศึกษาในปัจจุบันก้าวไปอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล การเรียนการสอนออนไลน์กลายเป็นการบูรณาการที่สำคัญ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่เข้ามาสนับสนุนการเรียนรู้อย่างก้าวกระโดด การใช้แท็บเลตและคอมพิวเตอร์ในห้องเรียนถือเป็นเรื่องปกติ นักเรียนนักศึกษาสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายผ่านอินเทอร์เน็ต การเรียนรู้แบบกระจายกำลังเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยม เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตามความสนใจและความถนัดส่วนตัว ในวันนี้ทีมงานจะขอแนะนำอีกหนึ่งบริษัท Startup ที่มี Solutions สำหรับการศึกษาที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่เรื่องในโรงเรียนเพียงอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมไปถึงการศึกษาในองค์กรอีกด้วย ทีมงานได้รับเกียรติจากคุณปฏิพัทธ์ เรืองสวัสดิ์ หรือ คุณบาส กรรมการผู้จัดการบริษัท Vonder ที่จะมาแชร์ความรู้และประสบการ์ให้เราได้ฟังกัน

คุณบาสได้เริ่มอธิบายถึงจุดเริ่มต้นของบริษัท Vonder ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นจากการได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ในวงการการศึกษาและได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจค “Teach for Thailand” หลังจากนั้นก็ได้เล็งเห็นถึงสื่อการเรียนรู้มากขึ้น จึงจุดประกายความคิดที่ว่า เราจะทำอย่างไรให้คุณครูสามารถสอนนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และเครื่องมือที่ใช้จะต้องสามารถช่วยเหลือหรือสนับสนุนในการสอนนักเรียนได้จริง โดย คุณบาส ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า อุปกรณ์ หรือเครื่องมือที่นำเข้าจากต่างประเทศมักมีราคาแพงมาก จึงอยากจะสร้างเครื่องมือขึ้นมาเอง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่สร้างโดยคนไทย เพื่อคนไทย และเข้าใจคนไทยจริง ๆ โดยหลังจากนั้นไม่นานทางบริษัท Vonder ก็ได้มีแนวคิดที่จะสนับสนุนการเรียนรู้ที่กว้างออกไปมากขึ้น หรือในวงการธุรกิจ จึงได้เริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าภายในองค์กรต่าง ๆ มีปัญหาเรื่องการศึกษาหรือการทำงานที่จะต้องใช้การเรียนรู้ฝึกฝนหรือไม่? และสุดท้ายก็ได้พบว่า ในองค์กรเองก็มีปัญหาแบบเดียวกัน ทางบริษัท Vonder จึง ได้เริ่มวางแผนในการดำเนินธุรกิจที่กว้างขึ้น และเจาะกลุ่มเป้าหมายเพิ่มอีกด้วย

นอกจากนี้คุณบาสได้อธิบายเพิ่มเติมว่าสินค้า และบริการของบริษัท Vonder จริง ๆ แล้วจะมีค่อนข้างหลากหลายตัวมาก เนื่องจากได้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมพูดคุยกับองค์กรต่าง ๆ และพบว่ามีปัญหามากมายที่รอให้แก้ไขหรือจัดการ ทั้งนี้บริการหลัก ๆ ที่ Vonder มุ่งเน้นในปีนี้จะมีด้วยกัน 3 บริการหลัก ซึ่งก็คือ

1. Engagement service หรือ เครื่องมือสำหรับการสร้างปฏิสัมพันธ์ในองค์กร เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้พนักงานในองค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้อง Work from Home จึงอาจส่งผลให้ความสามารถในการทำงานทั้งในรูปแบบทำงานคนเดียว หรือทำงานเป็นทีมลดลง

2. Internal communication หรือ เครื่องมือสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารภายในองค์กร กลายมาเป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากรูปแบบการทำงานในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป เริ่มมีการทำงานในรูปแบบ Hybrid หรือ Work from Home กันมากขึ้น การสื่อสารภายในองค์กรจึงอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ง่ายกว่าเดิม และเป็นสิ่งที่ต้องระวังไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น

3. Up Skill หรือ เครื่องมือสำหรับการพัฒนาทักษะในการทำงาน ที่มุ่งเน้นให้พนักงานได้มีโอกาสในการเพิ่มทักษะและความรู้ผ่านทางเครื่องมือที่เป็นรูปแบบของเกมส์ ที่จะส่งผลให้พนักงานไม่ได้รู้สึกเหมือนถูกบังคับมากเกินไป และทำให้พนักงานได้เพลิดเพลินไปกับเกมส์ ทั้งยังได้ความรู้และยังสามารถแลกรับ Reward เพื่อแลกรับรางวัลของบริษัทได้อีกด้วย

สุดท้ายนี้คุณบาสได้ทิ้งท้ายกลยุทธ์ที่เรียกได้ว่าเป็นเคล็ดลับในการประสบความสำเร็จที่ทุกท่านสามารถนำไปประยุกต์หรือปรับใช้ในองค์กรของท่านเองได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้า ซึ่งการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ก็หมายถึง การเอาตัวเราเองลงไปสัมผัสประสบการณ์ตรงจากลูกค้า ว่าลูกค้ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร? มีปัญหาใดที่ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่? เราสามารถสร้างคุณค่าอะไรให้กับลูกค้าได้บ้าง? เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก และเราจะต้องเข้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมายของเราเพื่อรับฟังถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้เป็น Solutions ที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่า Solutions ของเราอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ลูกค้าในครั้งแรก แต่หากเราหมั่นสอบถาม เข้าไปรับ feedback เพื่อนำมาปรับแก้ และนำไปให้ลูกค้าทดลองใช้เรื่อย ๆ จนกลายเป็น Solutions ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้า และสร้างคุณค่าให้แก่องค์กรได้ในท้ายที่สุดนั่นเองครับ

รับชมวิดีโอได้ที่: https://www.jrit-ichi.com/video/

ข้อมูลติดต่อ Vonder Thailand
คุณข้าวโพด – กิมิฑาวี ไชยฤทธิ์
โทร. 085-0371542
workplace@vonder.co.th
Facebook Page: Vonder for workplace
Line ID: @vonder