JRIT ICHI

【ICHI TALK】EDEN Agritech สตาร์ทอัพไทย กับเทคโนโลยียืดอายุผักผลไม้ได้นานขึ้น

รายการ “ICHI TALK” เชิญชวนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์ มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับความหลงใหลในธุรกิจ และร่วมแชร์ประสบการณ์ รวมถึงข้อคิดดี ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาด

ผู้ดำเนินรายการ: ตลาดการส่งออกผลไม้ของไทย เราถือว่าเป็นเจ้าใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาและการเสื่อมสภาพของของสินค้าทางการเกษตรทำให้ไม่สามารถส่งออกไปยังประเทศที่ไกล ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้เราสูญเสียโอกาสในการขยายตลาดการส่งออกสินค้าทางการเกษตรของไทยอีกด้วย แต่ว่าในตอนนี้เรามีนวัตกรรมที่จะช่วยแก้ปัญหา ขยายโอกาส และยกระดับคุณภาพการส่งออกสินค้าทางการเกษตรของไทยค่ะ ขอต้อนรับคุณจ๊อบ – นรภัทร เผ่านิ่มมงคล CEO&Co-Founder EDEN Agritech ค่ะ ก่อนอื่นอยากให้ช่วยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของ EDEN Agritech ให้ฟังหน่อยค่ะ

คุณจ๊อบ: แม้ว่าบริษัทจะชื่อ EDEN ซึ่งดูเป็นฝรั่ง แต่เราเป็นคนไทย 100% ครับ เราทุกคนมี passion ร่วมกันที่อยากจะสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับวงการอาหารโดยเฉพาะผักผลไม้สด สาเหตุเพราะประเทศไทยมีศักยภาพในการด้านการผลิตโดยเฉพาะการเกษตร แต่รายได้กลับไม่สัมพันธ์กัน ปัญหาที่เราค้นพบคือการกระจายสินค้าที่เราไม่สามารถขนส่งไปไกลได้ เช่น ไม่สามารถส่งสินค้าจากภาคเหนือสุดหรือใต้สุดเข้ามาขายในกรุงเทพได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือการส่งมะม่วงไทยไปขายยังประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งปัญหาอย่างหนึ่งที่เราต้องสู้คือเวลา เราเลยทำนวัตกรรมหยุดเวลาที่ชื่อว่า Naturen มาประยุกต์ใช้ ทำให้สามารถยืดอายุผักผลไม้สด ส่งผลให้สามารถจัดจำหน่ายไปได้ไกลมากขึ้น

ผู้ดำเนินรายการ: อยากทราบว่า Naturen ทำงานอย่างไร และจะแก้ปัญหาการส่งออกสินค้าโดยเฉพาะผลไม้ไทยไปยังต่างประเทศได้อย่างไร

คุณจ๊อบ: Naturen มาจากคำว่า Natural และ EDEN เพื่อตอกย้ำว่าสูตรของนวัตกรรมนี้ทำมาจากธรรมชาติ 100% และสามารถบริโภคได้ ซึ่ง Naturen คือ ฟิล์มล่องหน เมื่อเราฉีดพ่นเคลือบ Naturen ไปบนผิว เปลือก หรือเนื้อของผักผลไม้ที่ได้รับการตัดแต่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะเกิดชั้นฟิล์มล่องหนขึ้น ซึ่งฟิล์มนี้ทำหน้าที่ควบคุมการแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ส่งผลให้เราสามารถยืดอายุผักผลไม้ได้นานขึ้น 3-5 เท่าโดยเฉลี่ย ทำให้สามารถส่งออกและจัดจำหน่ายภายในประเทศได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผู้ดำเนินรายการ: อย่างที่บอกว่า Naturen มาจาก Natural หมายความว่าเป็นสารเคลือบที่มาจากธรรมชาติเลยเหรอคะ

คุณจ๊อบ: ใช่ครับ ทำมาจากธรรมชาติทั้งหมดครับ ในขั้นต่อไปเราเองก็จะไปเข้ารับการทดสอบจากมาตรฐานต่าง ๆ ให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเราก็ยังไม่ถึงจุดนั้นครับ แต่หากพูดถึงความเป็นธรรมชาติและสามารถบริโภคได้เราสามารถเคลมได้ 100% ครับ

ผู้ดำเนินรายการ: คุณจ๊อบเคยพูดคำนึงที่น่าประทับใจมากคือ “ให้ธรรมชาติปกป้องธรรมชาติ” ช่วยพูดถึงคำนี้หน่อยได้ไหมคะ

คุณจ๊อบ: ธรรมชาติเป็นเรื่องมหัศจรรย์และมีกลไกในการปกป้องตัวเองอยู่แล้ว สิ่งที่เราทำคือพยายามหาว่าเงื่อนไขใดที่ผักผลไม้จะอยู่ได้ยาวนานที่สุด สิ่งที่ทุกคนค้นพบคือผักผลไม้เวลามีเปลือกจะอยู่ได้นานกว่าไม่มีเปลือกเสมอ แล้วต้องมาหาต่อว่าแล้วเปลือกแบบไหนที่ดีที่สุดเพื่อให้ผู้ประกอบการยังสามารถขายได้ เราเชื่อว่าเปลือกล่องหนหรือฟิล์มล่องหนคือคำตอบ เพราะ
1. สิ่งนี่สามารถยืดอายุผักผลไม้ได้ดังเดิม หรือในบางกรณีคือดีกว่าเดิม
2. ผู้ประกอบการก็ยังสามารถขายได้ เพราะสิ่งนี้ไม่ได้สร้างความยุ่งยากอะไรกับผู้บริโภค โดยผู้บริโภคสามารถกินได้เลยโดยไม่ได้รู้สึกว่ามีสิ่งนี้อยู่บนสินค้าที่กิน จากที่บอกไปสิ่งนี้ตอบโจทย์และให้ประโยชน์แก่ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น ตัวผลไม้ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค

ผู้ดำเนินรายการ: ก่อนหน้านี้มีนวัตกรรมที่ชื่อว่า Foodtech ในตอนนี้ได้มี Agritech เพิ่มขึ้นมา ความแตกต่างของ 2 สิ่งนี้คืออะไรคะ

คุณจ๊อบ: หากนิยามสินค้าของเราจากคำสองคำนี้ เราจะออกไปทาง Foodtech มากกว่า จากที่ได้พูดคุยสอบถามจากผู้รู้หลาย ๆ ท่าน จุดตัดของสองสิ่งนี้คือ การเก็บเกี่ยว กล่าวคือ Agritech เป็นเทคโนโลยีที่มักจะเกิดขึ้นก่อนการเก็บเกี่ยวเสมอ ซึ่งจะออกมาในรูปแบบของการทำ big data การทำ forecast ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ ดิน หรือน้ำ รวมไปถึงการนำ IoT หรือหุ่นยนต์ต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้การเกษตรพัฒนาไปได้มากขึ้น ส่วน Foodtech มักจะเกิดขึ้นหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งจะเป็นเรื่องของการแปรรูป การยืดอายุ การเปลี่ยนแปลงสภาพให้สินค้ามีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งการยืดอายุของ Naturen จะไปเข้าข่ายของทาง Foodtech มากกว่า แต่เหตุผลที่เราตั้งว่าเป็น Agritech เพราะเราเชื่อว่าการแก้ปัญหาหลังการเก็บเกี่ยวไม่สามารถทำได้อย่างยั่งยืน บูรณาการ การแก้ปัญหาที่จะทำได้อย่างบูรณาการต้องทำตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ในตอนนี้สโคปของ EDEN ก็ยังอยู่ที่ปลายน้ำ แต่ในอนาคตเรามีความตั้งใจจะขยายธุรกิจให้ไปฝั่งต้นน้ำมากขึ้น โดยจะนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยครับ

ผู้ดำเนินรายการ: แรงบันดาลใจในการเริ่มต้นธุรกิจคืออะไรคะ เพราะทราบมาว่าโครงการหรือนวัตกรรมนี้เริ่มมาจากการไป pitching ของกลุ่มเพื่อนจนวันหนึ่งสามารถก่อตั้งเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพขึ้นมาและประสบความสำเร็จได้แบบนี้

คุณจ๊อบ: EDEN เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนในรั้วมหาวิทยาลัย โดยเกิดการตั้งคำถามว่าทำไมรายได้ที่เกิดขึ้นจากภาคการเกษตรไม่สอดคล้องกับผลสำรวจว่าประเทศไทยมีการผลิตทางการเกษตรในเชิงปริมาณเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และยังไม่ขยับเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากผักผลไม้ที่เราผลิตได้ ทำไมเราจึงทำไม่ได้เหมือนประเทศอื่น ๆ อาทิ เนเธอร์แลนด์ หรืออิสราเอล ที่สามารถเพาะปลูกได้เยอะ และสร้างมูลค่าให้กับสินค้าได้เยอะเช่นเดียวกัน และเราได้ค้นพบว่าเรามีเทคโนโลยีตัวหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งที่สามารถที่จะมาจัดการในเรื่องเวลาได้ เลยจับสินค้าตัวนี้มา validate idea ที่สนามการแข่งขัน ที่คณะกรรมการเป็นบริษัทใหญ่ เป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการ เช่น เรื่องเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น และไปทดสอบไอเดียที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผลตอบรับนั้นค่อนข้างดีและค้นพบว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการยืดอายุสินค้านั้นต้องอาศัยเวลาในการอธิบายในประเทศไทย แต่เมื่อเราไปพูดที่อเมริกาที่ตลาดของเขาพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว เขาก็เข้าใจและให้กำลังใจเราได้อย่างรวดเร็วว่านี่คือปัญหาใหญ่เลย สาเหตุเพราะประเทศสหรัฐอเมริกามีพื้นที่ที่เหมาะสมในการเพาะปลูกจำกัด เพราะฉะนั้นเรื่องการกระจายสินค้าให้ทั่วถึงนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเขา นับตั้งแต่วันนั้นเราเลยเล็งเห็นว่าจริง ๆ เราสามารถที่จะเข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการกระจายสินค้าตัวหนึ่งได้ และไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศไทย และรวมถึงต่างประเทศด้วย เลยตัดสินใจที่จะนำเทคโนโลยีตัวนี้มาใช้ในตลาด แน่นอนว่าระหว่างทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เริ่มต้นก็คือ
1. คุณต้องทำ Product-Market Fit ได้จริง ๆ
2. สินค้าของคุณเหมาะกับตลาดไหน ซึ่งหมายถึงว่าตลาดไหนที่จะสร้างมูลค่าให้สินค้าตัวนี้ได้สูงที่สุด ขณะเดียวกันสินค้าตัวนี้ก็สามารถสร้างมูลค่าและรายได้ให้กับบริษัทได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดเช่นกัน
3. การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎข้อบังคับต่าง ๆ ทางเราเองก็ต่อสู้มาหลายปีเช่นกันกว่าจะได้รับการยอมรับการองค์การอาหารและยา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องมีเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสบายใจ
4. ความยืดหยุ่นและการปรับตัวในการทำธุรกิจและการตัดสินใจ

ผู้ดำเนินรายการ: อยากให้ลองยกตัวอย่างปัญหาและวิธีแก้ปัญหาที่พอจะเล่าได้ให้ทุกคนฟังหน่อยค่ะ

คุณจ๊อบ: งั้นผมขอยกตัวอย่างเรื่องโควิดแล้วกันครับ ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้กลุ่มเป้าหมายของเรา คือ ผู้ส่งออก เนื่องจาก Product-Market Fit และ Business Model ของตลาดผู้ส่งออกสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง พอเกิดการแพร่ระบาดของโควิดในช่วงต้นทางเราก็ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่ในตอนปลายเริ่มมีปัญหาเรื่องการส่งออก เพราะมีการปิดด่าน ทำให้ส่งสินค้าไม่ได้ ค่าระวางเรือขึ้นมหาศาล ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ได้ลงมาอยู่ในราคาที่เหมาะสม หรือการที่เที่ยวบินหายหมด ซึ่งผักผลไม้ของเราก็มีการส่งไปกับเที่ยวบินด้วย เรียกได้ว่าการกระจายสินค้ามันขาดสะบั้นเลยครับ แน่นอนว่าลูกค้าของเราเองก็ได้รับผลกระทบเยอะมาก บางเจ้าถึงกับปิดไลน์การส่งออกผักผลไม้สดไปเลย พอลูกค้าหายเราก็ต้องปรับตัวโดยการหาตลาดอื่นนอกเหนือจากตลาดส่งออกที่สามารถสร้างมูลค่าได้เหมือนกันและยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อยู่ เราเลยเปลี่ยนกลับมายังตลาดในประเทศมากขึ้น และมีการปรับองค์ความรู้ การทำงานให้เหมาะกับตลาดในประเทศมากยิ่งขึ้น แม้ตลาดในประเทศจะไม่ได้ซับซ้อนเท่าการส่งออก แต่ก็จุดที่ท้าทายความสามารถเราไม่ต่างกัน นั่นก็คือการทำอย่างไรให้ยืดอายุสินค้าให้ได้นานที่สุดในราคาที่เหมาะสมที่สุด เราเลยมาเลือกทำตลาด supplier ซึ่งอยู่ใน supply chain ของห้างร้านต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาผมคิดว่าเราก็ปรับตัวได้ดีและสามารถที่จะเพิ่มการใช้งานในตลาดได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

ผู้ดำเนินรายการ: นอกจาก Naturen แล้วยังมีนวัตกรรมอื่น ๆ ที่ทาง EDEN นำมาใช้อีกไหม

คุณจ๊อบ: ของเราจะออกไปทางเทคโนโลยีชีวภาพครับ เลยได้มีการดูเทคโนโลยีกลุ่มหลังการเก็บเกี่ยวอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากในด้านกลุ่มส่งออกเขาพร้อมที่จะจ่ายอยู่แล้วหากมี solution แต่กลุ่มในประเทศจะต้องมีทั้งประสิทธิภาพและราคาที่เหมาะสมด้วย ตอนนั้นก็ได้ดูเทคโนโลยีมากมายแล้วเอามาทำเป็น comprehensive solution มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี adaptive packaging หรือการควบคุม ethaline ในผักผลไม้ได้มากขึ้นที่ได้นำมาประยุกต์ใช้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นการยืดอายุสินค้าทางการเกษตรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในราคาที่ผู้ประกอบการรับได้ ทุกวันนี้ องค์กรใหญ่ ๆ มีการนำเทคโนโลยี RPA (automated process) มาใช้งาน เราเองก็พยายามนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ด้วยเช่นกัน สุดท้ายที่เรากำลังศึกษาอยู่กับทางพาร์ทเนอร์ก็คือเรื่อง blockchain อย่างที่ได้บอกไปว่าเรามีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งคือความสามารถในการทดสอบ และ blockchain จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ได้

ผู้ดำเนินรายการ: อยากให้ช่วยเล่าถึงความสำเร็จในปัจจุบันของ EDEN และเป้าหมายในอนาคตให้ฟังหน่อยค่ะ

คุณจ๊อบ: ถ้าถามว่าเราประสบความสำเร็จกันรึยังก็ต้องตอบว่ายังครับ แต่ถ้าเป็นการสำเร็จเล็ก ๆ ก็มีครับ อย่างแรกเลยก็คือการได้รับการยอมรับจาก regulator ต้องบอกว่าการทำสารสกัดตัวนี้เราเป็นสินค้าตัวแรกเลย โดยสามารถนำมาใช้กับผักผลไม้ได้ทั้งแบบตัดแต่งและทั้งลูกได้ในประเทศไทย และเราก็น่าจะเป็นคนแรก ๆ ในภูมิภาคนี้เช่นเดียวกัน สองคือการได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการเอง แต่ก่อนเทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นของต่างชาติ แต่ทุกวันนี้หากคิดถึงการยืดอายุสินค้าก็จะโทรหา EDEN ซึ่งเป็นสิ่งที่เราดีใจมากว่าเราสามารถจะมาช่วยแก้ปัญหาได้ หากพูดถึงความฝันของเรา แน่นอนว่าเราไม่อยากให้ของดีของเราหยุดอยู่แค่ในประเทศ เราฝันว่าอยากทำให้เทคโนโลยีนี้สามารถกระจายไปได้ทั่วโลก และทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงไม่ใช่แค่การผลิตสินค้า แต่เป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีทางด้านอาหาร และด้านชีวภาพที่ทันสมัย ในตอนนี้เราก็กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายตลาดไปในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม มาเลเซีย หรือฟิลิปปินส์ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ แต่เราจะทำให้ได้เพื่อให้เทคโนโลยีของไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกครับ

ผู้ดำเนินรายการ: อยากให้ช่วยแบ่งปันแนวความคิดให้กับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในเรื่องของการทำธุรกิจสักเล็กน้อยค่ะ

คุณจ๊อบ: ผมอาจจะเริ่มต้นทุกอย่างจากความฝันครับ ผมมองว่าการที่เราจะมีความสุขในการใช้ชีวิตเราต้องเข้าใจเป้าหมายในชีวิตของเราก่อน ซึ่งแต่ละคนก็มีเป้าหมายแตกต่างกันออกไป หากความฝันของคุณคือการนำไอเดียของตัวเองมาใช้ สร้างประโยชน์ให้กับสังคมในภาพรวม และสามารถเลี้ยงปากท้องของคุณได้ด้วย การทำสตาร์ทอัพก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ในการที่จะนำไอเดียของคุณมาทดลองและทดสอบได้จริง ๆ และสามารถตอบโจทย์เป้าหมายในชีวิตที่ต้องการนำไอเดียเหล่านี้ไปช่วยเหลือผู้อื่นหรือเปลี่ยนแปลงให้สังคมพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น อย่างที่หลายคนบอกว่าถ้าเราทำอะไรที่เรามีความสุขเราจะเพลินและไม่ท้อกับงาน แม้ว่าจะเกิดปัญหาหรืออุปสรรคอะไรก็ตามครับ

ผู้ดำเนินรายการ: สุดท้ายอยากให้ช่วยฝากข้อความให้กำลังใจไปยังผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่กำลังพยายามจะฟื้นฟูตัวเองจากสถานการณ์โควิด-19 หน่อยได้ไหมคะ

คุณจ๊อบ: Business Model และการหา Product-Market Fit รวมถึงการไพวอตต่าง ๆ เป็นเรื่องที่จำเป็น และต้องคอยดูว่าในสถานการณ์เช่นนี้เราควรต้องทำตัวอย่างไร เราต้องมีความยืดหยุ่นที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและเอาตัวรอดครับ สุดท้ายก็ฝากว่า โควิดจะต้องหายไปแต่ธุรกิจของเราจะยังคงอยู่ครับ

ช่องทางการติดต่อ Eden Agritech
Website: https://edenagritech.com/
Facebook: Eden Agritech
Line OA: @edenagri

** ผู้สนใจรับชมรายการ ICHI TALK ในรูปแบบวิดีโอ สามารถรับชมผ่าน ICHI Website โซน VIDEO ได้ทันที **