【ICHI TALK】 Content Shifu แหล่งคอนเทนต์ชั้นดี เพื่อการเรียนรู้ Digital Marketing อย่างไม่รู้จบ
รายการ “ICHI TALK” เชิญชวนผู้ประกอบการสตาร์ตอัพในไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์ มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับความหลงใหลในธุรกิจ และร่วมแชร์ประสบการณ์ รวมถึงข้อคิดดี ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาด
ผู้ดำเนินรายการ: สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่รายการ ICHI TALK ค่ะ ในวันนี้จะขอแนะนำแพลตฟอร์มที่จะทำให้ทุกคนเข้าถึงเทคนิคการตลาดได้ง่ายขึ้น รวมถึงวิธีคิดและการบริหารของ คุณแบงค์ สิทธินันท์ พลวิสุทธิ์ศักดิ์ Co-founder of Content Shifu ค่ะ ก่อนอื่นอยากให้คุณแบงค์ช่วยเล่าถึง Content Shifu สักเล็กน้อย
คุณแบงค์: Content Shifu เป็นเว็บไซต์และเป็น ecosystem ที่ช่วยให้คนและองค์กรที่ต้องการพัฒนาทักษะด้านการตลาดดิจิทัล เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงาน สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้และองค์ความรู้ได้มากยิ่งขึ้น โดยศาสตร์ของการตลาดทางดิจิทัลมีหลากหลายมาก แต่สิ่งที่ Content Shifu โฟกัสเป็นพิเศษ คือ ศาสตร์ที่ชื่อว่า inbound marketing หรือการทำการตลาดขาเข้า หรือการดึงดูดคนเข้ามาเอง โดยจะมี blog และ e-book ที่ใช้ในการให้ความรู้ครับ
ผู้ดำเนินรายการ: เห็นว่ามีคอนเทนต์เรื่องการตลาดเยอะขนาดนี้ คุณแบงค์เรียนจบด้านการตลาดมาโดยตรงเลยรึเปล่าคะ
คุณแบงค์: ไม่เลยครับ ก่อนที่จะทำ Content Shifu ได้ทำสตาร์ตอัพกับเพื่อนชื่อว่า Zipevent ทำมาสัก 2-3 ปี แล้วก็ขายหุ้นให้เพื่อนไป เนื่องจากความเห็นไม่ตรงกัน แต่ถ้าพูดถึงในช่วงที่เรียนต้องบอกว่าในช่วง 10 ปีที่แล้วก็ไม่มีใครสอนนะครับ เรียกได้ว่ายังเป็นเรื่องที่ใหม่มาก ๆ ผมเรียนจบปริญญาตรีวิศวกรรมอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจบปริญญาโทสายธุรกิจที่ University of Strathclyde ที่สกอตแลนด์ แม้จะจบมาไม่ตรงสาย แต่ก็สามารถนำความรู้ที่เรียนมาปรับใช้ได้ครับ เลยไม่อยากให้จำกัดตัวเองไว้แค่สิ่งที่เราเรียนมาเท่านั้น รวมถึงไม่ต้องจำกัดตัวเองอยู่แค่เรื่อง Digital Marketing ด้วยเช่นกัน เนื่องจากในปีที่ผ่านมีทั้งเรื่อง web3 NFT ฯลฯ เกิดขึ้นมากมาย สิ่งที่จำเป็นเลยคือ learning mindset ครับที่เราอาจจะต้องพยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา
ผู้ดำเนินรายการ: พอมีความสนใจแล้วมีการเริ่มทำ Content Shifu อย่างไรคะ
คุณแบงค์: ตอนที่ผมขายหุ้นคืนให้เพื่อนก็ได้มาลองค้นหาไอเดียใหม่ ๆ โดยตัวเราเองก็มีความสนใจในเรื่อง Digital Marketing อยู่แล้ว เพราะในตอนที่ทำ Zipevent ก็ต้องทำให้คนเข้ามาใช้บริการของแพลตฟอร์มเรา ก่อนหน้านี้ได้มีการเขียนคอนเทนต์ของอีเวนท์หนึ่ง และเมื่อมีการเผยแพร่มีคนเข้ามาอ่าน 5-6 หมื่นคนในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้เรามีความคิดว่าคอนเทนต์เป็นสิ่งที่ทรงพลัง แต่แท้จริงแล้วก็ยังไม่ได้เป็นไอเดียที่จะเอามาทำธุรกิจ แล้วก็ยังคงหาไอเดียธุรกิจต่าง ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ โดยไปพูดคุยกับคนตาม Co-working space ซึ่ง Content Shifu ก็เป็นไอเดียที่เกิดขึ้นมาในช่วงนั้น เพราะเราค้นพบว่าในประเทศไทยยังไม่มีเว็บไซต์ที่ให้ความรู้ในเรื่องนี้มากเท่าไร เลยตัดสินใจทำกับพาร์ทเนอร์ ซึ่งพอทำแล้วก็มีคนเริ่มสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากในช่วงนั้นก็ไม่ได้มีแหล่งความรู้เชิงลึกอะไร พอเราทำขึ้นมาคนเลยสนใจกันมาก หลังจากที่ทำมาได้สัก 1-2 ปีก็เริ่มจริงจังมากขึ้น เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่เราสามารถต่อยอดไปได้
ผู้ดำเนินรายการ: ตอนที่วางแผนคิดว่าผู้ใช้งานจะเป็นคนกลุ่มไหนคะ
คุณแบงค์: คิดไว้ว่าเป็นนักธุรกิจ นักการตลาดที่สนใจที่จะทำให้ธุรกิจหรือการตลาดของตัวเองดีขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานเองก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างในช่วงแรกก็จะมีแค่นักธุรกิจหรือนักการตลาด แต่ช่วงหลังมานี้ก็มีการจับกลุ่มของทางฝ่ายบุคคลมากขึ้น
ผู้ดำเนินรายการ: เน้นเรื่อง Digital Marketing เลยใช่ไหมคะ
คุณแบงค์: ใช่ครับ เราจะเน้นคำว่า inbound marketing ก่อน เราไม่อยากขยายขอบเขตให้ใหญ่จนเกินไป เพราะเราเชื่อว่าถ้าเป็นอะไรที่เล็กและเฉพาะเจาะจงจะทำได้ดี แต่ถ้าเริ่มทำในสิ่งที่ใหญ่ไปเลยมันจะยากครับ
ผู้ดำเนินรายการ: อีกอย่างที่ทราบมาว่ากำลังทำอยู่ คือ Magnetolabs เหรอคะ แล้วมีความเชื่อมโยงกับ Content Shifu ยังไงคะ
คุณแบงค์: Magnetolabs ก็จะคล้าย ๆ บริษัทพี่น้องกับทาง Content Shifu ครับ โดย Content Shifu จะเป็นพี่ที่ให้ความรู้ ทำเรื่อง Trending ในส่วนของ Magnetolabs จะเป็นเอเจนซี่ที่ให้บริการการตลาดครับ กลุ่มลูกค้าเองก็ไม่ใช่กลุ่มเดียวกันโดยสิ้นเชิง แต่ก็จะมีความเชื่อมโยงกันบ้าง
ผู้ดำเนินรายการ: บทความใน Content Shifu เขียนเองทุกคอนเทนต์เลยรึเปล่าคะ
คุณแบงค์: ช่วงแรก ๆ เป็นอย่างนั้นครับ ในช่วงแรกจะทำสัปดาห์ละ 1 คอนเทนต์ ฟังดูอาจจะไม่เยอะแต่ว่าคอนเทนต์หนึ่งจะใช้เวลาเขียนนานมาก เพราะเป็นคอนเทนต์ที่ยาว แต่หลังจากที่ทำมา 3-4 ปี ธุรกิจมีการขยายตัวมากขึ้นก็เริ่มมีทีมเข้ามาช่วยมากขึ้นครับ ทำให้เรามีเวลาไปโฟกัสส่วนอื่น ๆ ที่มีความสำคัญกับธุรกิจเช่นเดียวกัน
ผู้ดำเนินรายการ: Content Shifu มีพัฒนาการในการนำเสนอคอนเทนต์อย่างไร และรูปแบบไหนบ้างคะ
คุณแบงค์: หลัก ๆ ก็จะยังเป็นบทความในเว็บไซต์อยู่ครับ แต่พอเทรนด์การตลาดหรือธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปเราเองก็มีการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์เช่นเดียวกัน เช่น มีการใช้รูปภาพ หรือวิดีโอ จึงมีการผลิตคอนเทนต์แบบอื่นนอกเหนือจากบทความมากขึ้นเช่นกันครับ
ผู้ดำเนินรายการ: อยากจะทราบว่าเราสามารถทำให้คอนเทนต์กลายมาเป็นธุรกิจได้อย่างไรคะ
คุณแบงค์: การนำคอนเทนต์มาทำเป็นธุรกิจนั้นมีหลากหลายโมเดลครับ ผมขออนุญาตยกตัวอย่างอันที่ง่ายที่สุดก่อนนะครับ ก็คือ affiliate marketing หรือการที่เราเขียนคอนเทนต์ให้ความรู้พร้อมกับโฆษณาสินค้าบางอย่างโดยการแปะลิงก์ไว้ หากมีคนคลิกลิงก์แล้วซื้อสินค้าเราก็จะได้ค่าแนะนำ โดยเปอร์เซ็นต์ที่จะได้จะแล้วแต่ธุรกิจโดยมีช่วงอยู่ที่ 3-50% ครับ อีกตัวอย่างคือ พอเรามีคนติดตามมากขึ้นเราสามารถรับสปอนเซอร์ได้ โดยเขียนถึงหรือพูดถึงสินค้าของแบรนด์นั้น ๆ เพื่อนำเสนอให้กับผู้ติดตามของเรา หรือจะเป็นแบบที่ Content Shifu ทำคือ เราทำ Academy ด้วย ทำเรื่องการสอน Digital Marketing โดยการเอาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ มาเรียบเรียงและจัดให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น เพื่อผู้เรียนจะได้เรียนรู้อย่างเป็นระบบ พร้อมกับยกตัวอย่างจากอินไซต์ที่เรามีหลังบ้านให้ผู้เรียนเห็น
ผู้ดำเนินรายการ: Content Shifu ก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อไรคะ อยากจะให้ช่วยเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวในช่วงเริ่มต้นทำได้ไหมคะ
คุณแบงค์: น่าจะประมาณ 5-6 ปีแล้วนะครับ ในส่วนของเรื่องราวในตอนเริ่มทำธุรกิจผมจะขอเน้นในเรื่องของปัญหาแล้วกันนะครับ อันดับแรกเลย คือ เรื่องเงิน ทำคอนเทนต์ขึ้นมาแล้วไม่รู้จะหาเงินยังไง ซึ่งในช่วงที่คอนเทนต์ยังไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้ ก็มีการรับจ้างทำแผนการตลาดหรือไม่ก็สอนเรื่องการตลาดครับ ในช่วง 4-5 ปีที่ทำ content shifu มาเราก็มีทั้งสิ่งที่เราทำสำเร็จและสิ่งที่เราล้มเหลวจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกับหลาย ๆ ธุรกิจ แต่เมื่อเรามีประสบการณ์มากขึ้นก็รู้ว่าต้องคิดและพูดคุยกับทีมว่าทำอะไรที่จะ input น้อยแต่ทำให้เกิด impact มากที่สุด เพราะบางครั้งเราใส่ทุกอย่างเต็มที่ แต่ผลลัพธ์ออกมาน้อย กลับกันก็มีบางครั้งที่เราทำใส่แรงไปไม่มาก แต่ผลลัพท์ออกมามากกว่าที่คาดการณ์ไ
ผู้ดำเนินรายการ: ในปัจจุบันจำนวนผู้ใช้บริการ Content Shifu ในแต่ละช่องทางมีประมาณเท่าไรสามารถบอกได้ไหมคะ
คุณแบงค์: ช่องทางหลักของเรา คือ เว็บไซต์ เดือนหนึ่งก็จะมีคนเข้ามาประมาณ 3-4 แสนครั้ง ถ้านับเป็นจำนวนคนตั้งแต่เริ่มเปิดมาก็อยู่ที่ประมาณ 7-8 ล้านคน ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก็จะอยู่ที่หลักหมื่นครับ และในส่วนของคนที่เช้ามาเรียนก็น่าจะหลายพันแล้วนะครับ แล้วยังแบรนด์ต่าง ๆ ที่เคยทำงานด้วย เช่น เซ็นเด็กส์ ที่เป็นบริษัทระดับโลกที่ต้องการที่จะแนะนำแบรนด์ให้คนไทยได้รู้จัก ก็มีประมาณหลายสิบแบรนด์ครับ
ผู้ดำเนินรายการ: อยากให้คุณแบงค์ช่วยแนะนำช่องทาง หรือเทคนิคในการที่จะทำให้แบรนด์หรือสตาร์ตอัพของเราสามารถไปร่วมมือกับบริษัทใหญ่ ๆ หน่อยได้ไหมคะ
คุณแบงค์: ผมคิดว่าอย่างแรกที่สำคัญ คือ การทำตัวเองให้คู่ควร ต้องทำให้สินค้าหรือบริการของเราให้ดีและมีคุณภาพสูง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ถัดมา คือ การเข้าไปหาอีกฝ่าย เช่น การติดต่อนัดหมาย ผมคิดว่าหากสินค้าเราดี และไปตอบโจทย์กับสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการเขาก็พร้อมจะฟังในสิ่งที่เรามี การที่จะทำงานกับบริษัทระดับโลกเราก็ต้องทำงานให้ดีเทียบเท่าระดับโลกเช่นกัน
ผู้ดำเนินรายการ: การที่ได้ร่วมงานกับบริษัทระดับโลกเป็นตัวช่วยให้สินค้าหรือบริษัทของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นไหมคะ
คุณแบงค์: ก็ช่วยในระดับหนึ่งนะครับ ในมุมของ Content Shifu จะเป็นมุมที่เราช่วยเขามากกว่า เพราะเขาอาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในตลาดไทยมากนัก แต่พอได้ทำงานร่วมกันเราก็จะได้โนฮาวใหม่ ๆ รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องเทรนด์ของตลาดโลก ตลาดไทย เป็นต้น
ผู้ดำเนินรายการ: ให้คุณแบงค์เชิญชวนผู้ชมให้เข้ามาใช้บริการ Content Shifu หน่อยค่ะ ว่ากลุ่มไหนจะเข้ามาใช้บริการได้
คุณแบงค์: จริง ๆ มีหลายกลุ่มนะครับ แต่กลุ่มที่ผมอยากจะเชิญชวนมากที่สุดคือ คนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาด เจ้าของกิจการ หรือใครก็ตามที่ต้องการจะเพิ่มทักษะต่าง ๆ ให้ตนเอง อยากเรียนรู้ อยากหาลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นในโลกดิจิทัล ทางเรามีเนื้อหามากมายที่คุณสามารถเข้ามาอ่านได้ ฝากติดตาม contentshifu.com ไว้ด้วยนะครับ บทความต่าง ๆ นั่นสามารถเข้าไปอ่านได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยครับ
ผู้ดำเนินรายการ: ถ้าไม่มีความรู้เรื่อง Digital Marketing สามารถเข้าไปเรียนรู้ได้เลยไหม แล้วจะตามคนอื่นทันไหมคะ
คุณแบงค์: ได้เลยครับ จริง ๆ ใน Content Shifu จะมีเมนูที่ชื่อว่า Start Here! ซึ่งสามารถเข้าไปศึกษาได้เลยครับ เพราะเราเรียงลำดับไว้ให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Digital Marketing หรือ Content Marketing รวมไปถึงการซื้อโฆษณา
ผู้ดำเนินรายการ: อยากให้คุณแบงค์ช่วยให้กำลังใจกับหลาย ๆ คนที่อยากทำสตาร์ตอัพ รวมไปถึงคนที่กำลังต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ในการทำสตาร์ตอัพสักเล็กน้อยค่ะ
คุณแบงค์: ผมมี 2 อย่างที่อยากจะให้กำลังใจ อย่างแรก คือ อยากให้ยอมแพ้ ยอมแพ้ที่จะไม่พ่ายแพ้ เพราะในชีวิตเราต้องเจอความพ่ายแพ้อยู่เสมอ เป็นไปไม่ได้ที่เราจะสามารถทำทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ตลอด ซึ่งให้เราคิดเสมอว่าการที่เราพ่ายแพ้แสดงว่าเรากำลังพยายามทำอะไรสักอย่างอยู่ อีกเรื่องคือ ทักษะที่เจ้าของธุรกิจควรฝึกฝนคือ การบริหารสภาพจิตใจตัวเอง เพราะว่าเราต้องเจอเรื่องราวที่คาดไม่ถึงมากมาย หากเราบริหารสภาพจิตใจได้ไม่ดีจะทำให้เราไม่มีกำลังใจหรือมีแรงไปทำอย่างอื่นเลย
** ผู้สนใจรับชมรายการ ICHI TALK ในรูปแบบวิดีโอ สามารถรับชมผ่าน ICHI Website โซน VIDEO ได้ทันที **